ที่มา | คอลัมน์ สถานีคิดเลขที่ 12 มติชนรายวัน |
---|---|
ผู้เขียน | สถานีคิดเลขที่ 12 |
เผยแพร่ |
สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 กับสมาคมมิตรภาพไทย-กัมพูชา จัดเสวนา “ทิศทางและความเปลี่ยนแปลงในมิติต่างๆ ของภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขงในทศวรรษ 2560-2569” ที่โรงแรมโซฟิเทล กระบี่ โภคีธรา กอล์ฟแอนด์สปา รีสอร์ท เมื่อสัปดาห์ก่อน
สถาบันโพธิคยาฯ มี สุภชัย วีระภุชงค์ เป็นเลขาธิการ เป็นผู้มีมุมมองแหลมคมด้านศาสนาและความสัมพันธ์ของประเทศในภูมิภาคนี้ จากพื้นฐานที่เป็นนักธุรกิจมีกิจการในกัมพูชาและเวียดนามมาอย่างยาวนาน
ดึงผู้รู้หลายสาขามาถกสนทนาว่า ภูมิภาคลุ่มน้ำโขงหรือสุวรรณภูมิ ใน 9-10 ปีต่อไปนี้จะเป็นอย่างไร คำตอบที่ได้ สร้างความตื่นตัวให้ผู้ที่เข้าร่วมรับฟังต้องเอาไปคิดต่อเป็นการบ้าน
ประเทศลุ่มน้ำโขง เรียกย่อๆ ว่า CLMV ประกอบด้วยกัมพูชา-ลาว-เมียนมาหรือพม่า และเวียดนาม จะให้ครบต้องบวกตัว T ไทยแลนด์เข้าไปด้วย เป็นเพื่อนบ้านรั้วติดกัน ถ้าไม่ติดก็เห็นหลังคาบ้านอยู่ใกล้ๆ
ในความรักใคร่ผูกพัน ช่วยเหลือเกื้อกูล ก็มีด้านที่ต่อสู้ ขัดแย้งกัน และหวาดระแวงไปพร้อมกัน
จากอดีตจนปัจจุบัน ทิ้งบาดแผลเอาไว้พอสมควร
เวลาเปลี่ยนแปลงไป ด้วยนโยบายของฝ่ายต่างๆ ความจำเป็นในการอยู่ร่วม เทคโนโลยีการสื่อสารที่ก้าวหน้า ทำให้เกิดการเรียนรู้ สร้างความเข้าใจ ลบทำลายอคติ ความคิดความเชื่อผิดๆ ไปมาก
แผลเก่าลบเลือน แต่สุวรรณภูมิก็ใช่ว่าจะเดินหน้าได้ฉลุย ยังมีเรื่องของมหาอำนาจที่ต้องการเข้ามามีบทบาท
ในอดีตอเมริกามาปักหลักสกัดกั้นอิทธิพลของคอมมิวนิสต์อยู่แถวๆ นี้ แต่เมื่ออเมริกายุค โดนัลด์ ทรัมป์ ตั้งท่าถอย เหลือจีนยืนเด่นเป็นสง่าอยู่ ด้วยพลังทางเศรษฐกิจ พลังของประชากรทั้งรุ่นนี้และรุ่นต่อๆ ไป ส่งผลต่อสมดุลของพื้นที่นี้แน่นอน
เป็นการบ้านร่วมกันของคนทั้งภูมิภาคที่ต้องช่วยกันคิด
อย่างแม่น้ำโขง ที่มีจีนอยู่ต้นน้ำ และ CLMV และ T อยู่ด้านลุ่มปลายน้ำ จะใช้แม่น้ำสายนี้กันยังไง ให้ได้ประโยชน์พร้อมหน้าพร้อมตากันทุกฝ่ายต้องตั้งโต๊ะคุยกัน
ความกลมเกลียวของภูมิภาคนี้จึงเป็นเรื่องสำคัญ ความใกล้ชิดในฐานะเพื่อนบ้านก็ประเด็นหนึ่ง จุดร่วมที่โดดเด่น แต่ยังขาดการพัฒนาตอกย้ำให้เข้มแข็งมากขึ้น คือ เรื่องของศาสนา
องค์กรที่เห็นความสำคัญ ได้แก่ สถาบันโพธิคยาฯ ที่เข้ามาระดมความร่วมมือ จัดงาน “ธรรมยาตรา” นำพระสงฆ์ 5 ประเทศ ยาตราไปยัง 5 ประเทศ เริ่มต้นในเดือนพฤษภาคมนี้
เป็นอีกความเคลื่อนไหวที่น่าจะทำให้เห็นภาพของสุวรรณภูมิในทศวรรษข้างหน้าได้ลึกมากขึ้น