งานเข้าไม่ได้ว่างเว้นเลยจริงๆ สำหรับนักร้องดัง ก้อง ห้วยไร่ – อัครเดช ยอดจำปา ที่ก่อนหน้านี้เคยมีกรณีรถตู้ที่นั่งเกิดอุบัติระหว่างกำลังเดินทางจะไปเล่นคอนเสิร์ตที่อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร จนหม้อน้ำแตก ทำให้ก้องที่เจ็บเข่าและตกใจกับเหตุการณ์ตัดสินใจยกเลิกงาน ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ตามมาว่าไม่เป็นมืออาชีพ ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้ออกมาพูดถึงเรื่องดังกล่าวมีเพียงการโพสต์ภาพ พร้อมข้อความว่า “เราจะอธิบายให้คนที่เกลียดเรา รักเราทำไม งง 555” (อ่านเพิ่มเติม : ‘ก้อง ห้วยไร่’ เจอถล่ม! เหตุเลิกคอนเสิร์ตเพราะตกใจรถชน-เข่าเจ็บ ลั่นไม่รู้จะอธิบายให้คนเกลียดฟังทำไม)
ล่าสุดก็เกิดดราม่าขึ้นอีกแล้ว เมื่อในโลกโซเชียลมีการส่งต่อจดหมายของชายที่มีชื่อว่า พัฒนะ (ขอสงวนนามสกุล) เขียนระบายความในใจว่าเขาเป็นคนแต่งเพลง ‘ไสว่าสิบ่ถิ่มกัน’ ไว้เมื่อพ.ศ. 2553 ทั้งทำนองและทำนองกีต้าร์ จึงอยากพบก้อง ห้วยไร่ เพื่อพูดคุย ซึ่งเจ้าตัวน่าจะรู้เรื่องนี้อยู่แล้ว อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ต้องการเรียกร้องอะไร นอกจากเครดิตการแต่งเพลงเพื่อเป็นเกียรติให้กับตัวเอง โดยที่ผ่านมาเขาพยายามติดต่อก้องเพื่อพูดคุยหลายครั้งแล้วแต่ไม่สามารถติดต่อได้
ทั้งนี้ ‘มติชนออนไลน์’ ได้สอบถามเรื่องดังกล่าวไปยังผู้จัดการส่วนตัวของก้อง ห้วยไร่ ได้ความว่า ทางพวกตนได้เจอเฟซบุ๊กต้นเรื่องแล้ว ซึ่งไม่มีใครรู้จักกับชายคนดังกล่าวเป็นการส่วนตัว แต่ก็ได้ส่งข้อความให้ทางนั้นติดต่อกลับมา แล้วขั้นตอนต่อไปหากรู้ว่าคนที่ปล่อยข่าวเรื่องนี้เป็นคนสติไม่สมประกอบก็จะปล่อยไป แต่ถ้าเป็นคนมีสติสมบูรณ์จะดำเนินคดีแน่นอน เพราะยืนยันว่าเพลง ‘ไสว่าสิบ่ถิ่มกัน’ ก้องเป็นคนแต่งเนื้อเพลงเองทั้งหมด โดยเพลงนี้เกิดจากชีวิตจริงของ ก้อง ห้วยไร่ ที่ตอนนั้นอกหักเลิกกับแฟน จึงไปปรับทุกข์กับผู้ใหญ่ท่านหนึ่ง และผู้ใหญ่ท่านนั้นก็พูดขึ้นมาประโยคหนึ่งว่า “ไสสิบ่ถิ่มกัน ” ก้องจึงนำมาประโยคนั้นมาเป็นแรงบันดาลใจในการแต่งเพลงนี้ขึ้น ส่วนทำนองก็ไปแต่งกันสดๆ ในห้องอัดเสียง ซึ่งทางเรื่องนี้ก้องก็ไม่มีท่าทีโกรธ แต่อยากจะมีการเคลื่อนไหวบ้าง เพราะว่าคนเริ่มเชื่อจากข่าวดังกล่าวค่อนข้างเยอะ
“เราก็งงๆ ไม่รู้ว่าทุกคนจะตื่นเต้นทำไม เรายังไม่รู้ว่าเขาเป็นใครด้วยซ้ำ เราเลยไม่อยากให้ราคา เพลงนี้มันมีอายุมา 5 ปีแล้ว และดังมาแล้วถึง 3 ปี คนที่แอบอ้างคนนี้ไปอยู่ที่ไหนมา แต่ถึงอย่างไร ไม่ว่าทางก้องจะเอาเรื่องหรือว่าดำเนินคดีหรือไม่ สิ่งที่อยากให้ผู้แอบอ้างทำก็คือการชี้แจงเรื่องดังกล่าวด้วยตัวเอง ถ้าเขาไม่ติดต่อ จะไปหาเขาเอง สุดท้ายเขาต้องชี้แจงเรื่องนี้ คือไม่ว่าจะดำเนินคดีหรือไม่ เรื่องต้องจบที่เขาต้องชี้แจง เรื่องด้วยตัวเอง” ผู้จัดการนักร้องคนดัง กล่าวในที่สุด
