จรัญ หอมเทียนทอง นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จัดจำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงข้อสรุปในการจัดงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 45 และงานสัปดาห์หนังสือนานาชาติ ครั้งที่ 15 ที่เพิ่งผ่านไปว่า ประสบความสำเร็จเกินความคาดหมายเพราะมีผู้เข้าร่วมชมงานถึง 1,800,000 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็กและเยาวชน รองลงมาคือวัยทำงาน สำหรับแนวหนังสือที่มาแรงในครั้งนี้คือแนวไลท์โนเวล ความรู้เชิงประวัติศาสตร์ และโค้ชชิ่ง
“มีหลายสำนักพิมพ์ที่หนังสือขายหมดระหว่างงานจนต้องสั่งพิมพ์เพิ่ม” เขาว่า
โดย “นอกจากหนังสือนวนิยายที่เป็นตลาดใหญ่ที่สุดในธุรกิจหนังสือแล้ว ยังมีอีกหลายประเภทที่มาแรงอย่างน่าสนใจ คือหนังสือประเภทไลท์โนเวล ซึ่งเป็นนิยายวัยรุ่นพร้อมภาพประกอบที่แปลมาจากประเทศญี่ปุ่น ก็ได้รับความสนใจจากเด็กและเยาวชนอย่างมาก รวมถึงประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวกับประเทศจีนได้รับความสนใจจากนักอ่านผู้ใหญ่อย่างเห็นได้ชัด อาจเป็นเพราะคนอ่านหนังสือต้องการแสวงหาความรู้ที่เกี่ยวกับประเทศอื่นๆเพิ่มขึ้น ส่วนความนิยมในหนังสือโค้ชชิ้งนั้น คาดว่าน่าจะเป็นผลต่อเนื่องจากความนิยมเรื่องของการโค้ชชิ่งเพื่อพัฒนาและค้นหาศักยภาพของชีวิต”
บอกอีกว่าจากสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ในงานหนังสือจึงมีหนังสือออกใหม่ประมาณ 350 ปก และจากสภาวะปัจจุบันคาดว่าในอนาคตการทำหนังสือจะเป็นธุรกิจที่เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ
“นี่คือยุคสมัยที่คนทำหนังสือหรือสำนักพิมพ์จะต้องทำการบ้านมากขึ้น ต้องรู้ว่าผู้บริโภคต้องการหนังสือประเภทใดหรือมีพฤติกรรมการเลือกซื้ออย่างไร และเลือกทำในสิ่งที่ตนถนัดเพื่อสร้างจุดแข็งให้แก่ตนเองหนังสือที่เป็นกระดาษยังอยู่ได้ โดยมีการพัฒนาคุณภาพมากขึ้นเรื่อยๆ และราคาไม่ได้เป็นปัจจัยตัดสินใจหลักในการตัดสินใจซื้ออีกต่อไป กลุ่มคนอ่านหนังสือถือว่าเป็นกลุ่มที่เหนียวแน่นและซื้อตรงต่อสินค้ามาก ซึ่งถือว่าเป็นผลดีสำหรับคนทำธุรกิจสำนักพิมพ์”
