นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า กรมบัญชีกลางเตรียมพร้อมจัดทำบัตรประจำตัว มอบให้กับให้กับผู้ลงทะเบียนในโครงการลงทะเบียนสวัสดิการแห่งรัฐปี 2560 โดยหารือกับธนาคารกรุงไทย เพื่อทำบัตรดังกล่าวแล้ว และกรุงไทยมีความพร้อมที่จะดำเนินการให้ โดยบัตรดังกล่าวจะคล้ายบัตรประชาชน คือ มีชื่อ มีรูป เป็นบัตรมีชิปการ์ด บัตรจะมีอายุ 5 ปี สามาถนำมาใช้กับเครื่องรับบัตรอัตโนมัติ(อีดีซี) ที่กำลังติดตั้งในโครงการอีเพย์เมนต์ และสามารถเป็นบัตรเอทีเอ็ม หรือบัตรเดบิต หากในอนาคตรัฐจะโอนสวัสดิการ เช่น เบี้ยยังชีพคนชราให้ในรูปแบบเงินสด
นางสาวสุทธิรัตน์ กล่าวว่า ในเบื้องต้นบัตรดังกล่าวนำมาใช้เป็นส่วนลด หรือนำไปใช้กับสวัสดิการที่รัฐจะให้ เช่น ส่วนลดค่าน้ำ ค่าไฟ ใช้บริการรถเมลล์ รถไฟฟรี โดยสามารถเพิ่ม หรือลดสวัสดิการด้วยการใช้วิธีการใส่โปรแกรมเข้าไปในระบบอีเพย์เมต์และใส่โปรแรมเข้าไปในหน่วยงานที่จะรับบัตร เช่นไฟฟ้า ประปา หากประชาชนได้ส่วนลดสามารถนำบัตรไปแตะหรือรูดที่เครื่องอีทีซี จะได้รับลดทันที
นายสาวสุทธิรัตน์ กล่าวต่อว่า สำหรับในเรื่องเบี้ยยังชีพคนชรานั้น เป็นระยะต่อไปที่จะจ่ายให้ผ่านบัตร โดยในระยะแรกกรมบัญชีกลางจะทดลองนำเบี้ยยังชีพคนชราที่จ่ายโดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มาจ่ายโดยกรมบัญชีกลาง แบบเงินสดหรือโอนเข้าบัญชีก่อน หลังจากนั้นหากไม่มีปัญหาและอุปสรรคพร้อมจะจ่ายผ่านบัตรสวัสดิการ
นางสาวสุทธิรัตน์ กล่าวว่า สำหรับแนวทางการแจกจ่ายบัตรสวัสดิการนั้น จะมีการจ่ายบัตรไปยังจุดรับลงทะเบียน เช่นสาขาธนาคารที่ลงทะเบียน แล้วให้ผู้ลงทะเบียนมารับบัตรเอง โดยไม่สามารถจ่ายตรงไปที่บ้านผู้รับลงทะเบียนได้ เนื่องจากยังมีข้อกังวลว่าบัตรอาจตกหล่นไม่ถึงมือผู้ลงทะเบียน และการแจกจ่ายไปถึงบ้านผู้ลงทะเบียนมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานพอสมควร คาดว่าจะเริ่มจ่ายบัตรใบแรกได้ภายในเดือนตุลาคม 2560 หลังจากนั้นน่าจะจ่ายให้กับผู้ลงทะเบียนครบภายในเดือนธันวาคม 2560
“ขณะนี้กรมบัญชีกลางและธนาคารกรุงไทย กำลังหารือเพื่อเตรียมความพร้อมในการทำบัตร เพราะการลงทะเบียนครั้งนี้อาจมีผู้ลงทะเบียนสูงถึง 10-14 ล้านคน ดังนั้นในการจัดพิมพ์บัตรต้องทยอยดำเนินการ และการส่งบัตรทยอยส่งให้เป็นรอบๆ คงไม่ใช่ครั้งเดียวทั้งหมด” นางสาวสุทธิรัตน์ กล่าว
นางสาวสุทธิรัตน์ กล่าวว่า เหตุผลที่เลือกธนาคารกรุงไทยให้มาทำบัตร เพราะธนาคารกรุงไทย ทำงานกับกรมบัญชีกลางในระบบบริการการเงินการคลังภาครัฐ(GFMIS) ซึ่งเป็นระบบการจ่ายเงินที่กรมบัญชีกลางใช้อยู่ ดังนั้นจึงคุ้นเคยกับระบบของกรมบัญชีกลางอย่างดี และธนาคารกรุงไทยเป็นรัฐวิสาหกิจ เมื่อรัฐเลือกรัฐวิสาหกิจให้มาช่วยงานไม่น่าจะมีข้อครหาว่าไม่เปิดประมูล และได้หารือกับสมาคมธนาคารแล้ว ธนาคารอื่นไม่ขัดข้อง เพราะการทำเรื่องนี้คงมีกำไรไม่มาก
นางสาวสุทธิรัตน์ กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการอีเพย์เมนต์ภาครัฐ กรมบัญชีกลางมีการงานไว้พร้อมแล้ว โดยรัฐบาลมีแนวคิดให้หน่วยราชการจ่ายเงินและรับชำระเงินผ่านระบบพร้อมเพย์ และทำการชำระเงินผ่านเครื่องอีดีซีทั้งหมดเพื่อลดการรั่วไหล และลดปัญหาทุจริต คอรัปชั่น ในส่วนเครื่องอีดีซีนั้นมีแผนติดตั้ง 1.8 หมื่นเครื่องให้เสร็จในเดือนกันยายน 2560 นี้
