เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 17 เมษายน ที่ จ.อุดรธานี นายปราโมทย์ ธัญพืช ปลัดจังหวัดอุดรธานี นายเฉลิมศักดิ์ อินทร์หา รักษาการนายอำเภอกู่แก้ว เดินทางไปที่ป่าชุมชนดงกกผึ้ง ทิศเหนือศูนย์ปฏิบัติธรรมวัดป่าโนนทองอินทร์ หมู่ 4 ต.โนนทองอินทร์ อ.กู่แก้ว เพื่อเจรจากับชาวบ้านให้ตรวจยึดไม้พะยูง 3 ท่อน ไปเก็บรักษาไว้ที่ สภ.กู่แก้ว หลังจากคืนที่ผ่านมาชาวบ้านได้จับกุมนายอุเทียร บุตรอินทร์ อายุ 41 ปี อยู่ที่ 98 หมู่ 5 ต.นายุง อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี พร้อมไม้พะยูง 8 ท่อน แต่ไม่ไว้ใจให้ยึดไม้ไปที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ อด.7 (ศรีธาตุ)
โดยพบกับนายสิงหา เครือเนตร กำนัน ต.โนนทองอินทร์, นายกิตติวัฒน์ พรหมบุตร ผญบ.หมู่ 4, ชุดรักษาความสงบประจำหมู่บ้าน และชาวบ้านมากกว่า 100 คน ได้ร่วมชี้แจงเหตุผล พร้อมนำปลัดจังหวัด และรักษาการนายอำเภอ เข้าไปในป่าชุมชนดูสภาพต้นพะยูง ถูกคนร้ายลักลอบตัดไปหลายครั้ง จุดแรกเป็นตอไม้พะยูงถูกลักลอบตัด และขโมยไปเมื่อ 21 มีนาคมที่ผ่านมา จุดที่สองเป็นตอไม้พะยูงถูกลักลอบตัดคืนที่ผ่านมา และตรวจพบขณะขนย้ายออกไป จุดที่สามเป็นต้นพะยูงขนาดความโต 200 ซม. ถูกทำเครื่องหมายจะถูกตัดต้นต่อไป
นายกิตติวัฒน์ พรหมบุตร ผญบ.หมู่ 4 และชุด ชรบ. เล่าว่า ป่าชุมชนดงกกผึ้งมีพื้นที่ 700 ไร่ มีราษฎร หมู่ 1,2,4,6 และ 7 ใช้เป็นแหล่งอาหาร เมื่อปี 2557 มีคนร้ายมาลักลอบตัดและขโมยไม้ 4 ต้น จึงของบมาช่วยกันล้อมรั้วเอาไว้ เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทางราชการเข้ามาอบรมป้องกันไฟป่า และได้ร่วมกันเดินสำรวจป่าไปด้วย จนวันที่ 21 มีนาคม มีคนร้ายลักลอบตัดและขโมย ต้นพะยูงความโตมากกว่า 200 ซม.ไป จึงร่วมกันจัดเวรยามเฝ้าระวัง แบ่งชุด ชรบ.ออกไปกับชาวบ้านวันละ 10-12 คน
“เมื่อคืนนี้เวลาประมาณ 21.00 น. ได้จอดรถไว้ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรม จากนั้นเดินตามถนนขึ้นมาเรื่อยๆ จนมาพบชาย 2 คน คนแรกคือ นายอุเทียรผู้ต้องหาที่จับได้ คนที่สองเคยมากับทีมอบรมไฟป่าชื่อ “จ่านรินทร์” สังกัดหน่วยทหารใน จ.อุดรธานี กำลังเฝ้าไม้พะยูงจำนวน 8 ท่อน ที่ขนออกจากป่ามาอยู่ริมถนนรอขนต่อ แต่ไม่กล้าเข้าควบคุมตัว เพราะเกรงจะมีอาวุธ จึงโทรแจ้งให้กำนันนำกำลังมาสมทบ พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กู่แก้ว ”
ชุด ชรบ. เล่าต่อว่า ระหว่างรอตำรวจเดินทางมา หนึ่งในสองคนพยายามเกลี้ยกล่อม ไม่ให้มีการจับกุมเป็นผู้ต้องหา แลกกับอะไรก็ได้ขอให้บอก ขณะกำนัน ผญบ. และ ชรบ. ไม่ได้เจรจาหรือตกลงด้วย จนตำรวจเดินทางมาถึง “จ่านรินทร์” ได้อาศัยจังหวะหลบหนีไป ทิ้งนายอุเทียรฯไว้ให้ตำรวจควบคุมตัว โดยยอมรับสารภาพว่ามาด้วยกัน 6 คน คือ จ่านรินทร์, นายวิพัฒน์ ผู้ใหญ่บ้านใน อ.ศรีธาตุ นายฟัก (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง), นายวิเชด และนายคอน (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) ชาวอำเภอศรีธาตุและอำเภอสว่างแดนดิน จ.สกลนคร
นายสิงหา เครือเนตร กำนัน ต.โนนทองอินทร์ กล่าวว่า ชาวบ้านได้ช่วยกันขนไม้ของกลาง 5 ท่อน ขึ้นรถไปเก็บไว้ที่ สภ.กู่แก้ว ต่อมามีเจ้าหน้าที่ป่าไม้จะมาขนอีก 3 ท่อน จึงนัดหมายมาขนตอนเช้า เพื่อให้ผู้ต้องได้มาชี้ของกลาง แต่ปรากฏว่า จนท.ป่าไม้เข้ามาขนไปตอน 05.00 น. และจะขนของกลางทั้งหมด ไปไว้ที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ อด.7 (ศรีธาตุ) ชาวบ้านไม่ยอมเพราะไม่ไว้ใจ ขอให้เอาไว้ที่ สภ.กู่แก้ว ทำให้ฝ่ายปกครองมาไกล่เกลี่ยเรื่องจึงยุติ
กำนัน ต.โนนทองอินทร์ เปิดเผยว่า ต.โนนทองอินทร์ ยังมีป่าชุมชนดงสีเสียดพื้นที่ 1,200 ไร่ อยู่ติดกันมีลำห้วยเป็นเขตแดน ชาวบ้าน 7 หมู่บ้านร่วมกับอนุรักษ์ไว้ ให้เป็นป่าต้นน้ำ แหล่งอาหารธรรมชาติ และเก็บฟืน โดยมีต้นพะยูงอยู่มาก ตั้งแต่ปี 2557 ทั้งสองป่ามีคนมาลักตัดต้นพะยูง รวมแล้วมากกว่า 10 ต้น มีขนาดความโต 200-300 ซม. แม้จะช่วยกันดูแลก็เพียงชาวบ้าน กำลังเงินกำลังคนก็ช่วยกัน อยากจะให้ภาครัฐเข้ามาช่วยเรื่องนี้ ก่อนที่ต้นพะยูงจะหมดจากป่านี้ไป
นายปราโมทย์ ธัญพืช ปลัดจังหวัดอุดรธานี เปิดเผยว่า เมื่อทราบเรื่องรีบเดินทางมาด้วยตนเอง พบว่าชาวบ้านมีความเข้มแข็งเป็นทุน จนสามารถรักษาป่าชุมชนไว้อย่างสมบูรณ์ แต่ด้วยขบวนการค้าไม้พะยูง มีผลประโยชน์เชิงธุรกิจสูง ก็พยายามเข้ามาขโมยทุกวิถีทาง พบว่ามีการเข้ามาสำรวจเมื่อพบ จะใช้ขวดน้ำอัดลมแบบสะท้อนแสง แขวนไว้ที่ต้นพะยูงเป้าหมาย เมื่อเข้ามาตอนกลางคืนก็จะหาได้ง่าย ขณะนี้ให้ชาวบ้านเก็บออกแล้ว ต่อไปจะร่วมกับบวชต้นพะยูงทั้งป่า ความเชื่อว่าจะไม่มีใครกล้าตัด และจะให้ภาครัฐ และองค์กรปกครองท้องถิ่นมาช่วย
