เครือข่ายแรงงาน ยื่น 5 ข้อเรียกร้องถึงมือ’บิ๊กตู่’ ด้าน’บิ๊กบี้’วอนแรงงานอย่ากลัวตกงาน ยุค 4.0

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 1 พฤษภาคม พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นำข้าราชการประกอบพิธีสงฆ์เนื่องในวันแรงงาน ที่กระทรวงแรงงาน ก่อนเดินทางไปร่วมกับกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และ 15 สภาองค์การลูกจ้างและสหพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจแห่งประเทศไทย ที่หน้าสนามกีฬากองทัพบก ถนนวิภาวดีรังสิต จากนั้นได้เคลื่อนริ้วขบวนถวายความอาลัยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช และริ้วขบวนเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ริ้วขบวนของกระทรวงแรงงานและผู้ใช้แรงงานรวมกว่า 7 ขบวน นำโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ข้าราชการและผู้ใช้แรงงานจากบริเวณหน้าสนามกีฬากองทัพบกไปตามถนนวิภาวดีรังสิตเข้าสู่อาคารกีฬาเวสน์ 2 ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) รวมระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร กระทั่งเวลา 11.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเดินทางมาเป็นประธานในพิธีเปิดงานวันแรงงานแห่งชาติ

ต่อมาเมื่อเวลา 11.40 น. นายชินโชติ แสงสังข์ ประธานสภาองค์การลูกจ้างสภาแรงงานแห่งประเทศไทย ประธานการจัดงานวันแรงงานแห่งชาติ 2560 ได้ยื่นข้อเรียกร้องถึงมือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี 5 ข้อ โดยนายชินโชติกล่าวว่า ข้อเรียกร้องที่ 1 ให้รัฐบาลรับรองอนุสัญญาองค์การเเรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 87 เเละ 98 ซึ่งเรียกร้องตั้งแต่ปี 2535 สมัยรัฐบาล รสช. แต่ก็ยังไม่สำเร็จ ทุกรัฐบาลที่ผ่านมามีแต่โปรยยาหอมว่าจะเร่งการรับรองแต่ก็ไม่ได้มีการรับรอง ล่าสุดประเทศไทยถูกจัดอันดับการเฝ้าระวังเรื่องการค้ามนุษย์อันดับ 2.5 และกำลังพยายามลดระดับมาอยู่ที่ 2 ให้ได้ ดังนั้น คิดว่าหากรัฐบาลให้การรับรองอนุสัญญาดังกล่าวจะช่วยให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่น่าลงทุนมากขึ้น

2.ให้รัฐบาลปฏิรูปสำนักงานประกันสังคม ยกสถานะเป็นองค์กรอิสระ อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงแรงงาน ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถนำเงินไปลงทุนเพื่อเพิ่มรายได้ เพราะถ้าไม่ทำอะไรกองทุนล้านล้านบาทจะหมดในอีกไม่กี่สิบปี นอกจากนี้ ขอให้เเก้ไขกฎกระทรวงเกี่ยวกับบัตรรับรองสิทธิให้ใช้ได้ทุกโรงพยาบาล กรณีลูกจ้างเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุอันเนื่องมาจากการทำงาน เมื่อลูกจ้างใช้สิทธิกองทุนเงินทดเเทนครบตามหลักเกณฑ์เเล้วให้ลูกจ้างมีสิทธิใช้กองทุนประกันสังคมต่อได้ และผู้ประกันตนมาตรา 39 เเละ 40 ให้มีสิทธิเข้าเป็นสมาชิกกองทุนเงินออมเเห่งชาติได้ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานประกาศคืนสิทธิผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ที่ขาดจากการเป็นผู้ประกันตนเข้ามาขึ้นทะเบียนได้ใหม่ ตามระยะเวลาที่สำนักงานประกันสังคมกำหนด ให้เเก้ไขหลักเกณฑ์การจ่ายค่ารักษาพยาบาลทางการเเพทย์กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินเเละอุบัติเหตุให้เท่าที่จ่ายจริง รวมถึง เเก้ไขหลักเกณฑ์การจ่ายเงินทดเเทนกรณีขาดรายได้จากอุบัติเหตุเนื่องจากการทำงานเดิม 60 เปอร์เซ็นต์ เพิ่มเป็น 100 เปอร์เซ็นต์ของค่าจ้าง

Advertisement

3.ให้กระทรวงเเรงงานเร่งปรับปรุงกฎหมายเพื่อการคุ้มครอง ส่งเสริมเเละพัฒนาคุณภาพชีวิตเเรงงานนอกระบบให้มีประสิทธิภาพสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของเเรงงานนอกระบบเเละหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง และนำไปสู่การตั้งกรมแรงงานนอกระบบ 4.ให้รัฐบาลสนับสนุนเเละผลักดันกฎหมายพัฒนารัฐวิสาหกิจ เเละยุตินโยบายการเเปรรูปหรือแปลงสภาพรัฐวิสาหกิจให้เป็นบริษัทเอกชน หรือยุบรัฐวิสาหกิจเเละให้รัฐบาลยกเว้นการเก็บภาษีเงินได้กรณีค่าชดเชยเเละเงินตอบเเทนความชอบของพนักงานรัฐวิสาหกิจรวมถึงเงินได้อื่นๆ ซึ่งเป็นเงินงวดสุดท้ายของลูกจ้าง เเละ 5.ให้รัฐบาลตราพระราชกฤษฎีกาการจัดเก็บเงินสะสมเเละเงินสมทบเพื่อเป็นกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างตามบทบัญญัติว่าด้วยกองทุนสงเคราะห์ มาตรา 163 เเห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองเเรงงาน พ.ศ.2541 ทั้งนี้ เพื่อให้บั้นปลายชีวิตแรงงานที่เกษียณอายุ มีเงินทุนก้อนสุดท้ายสำหรับนำไปต่อยอดในการใช้ชีวิตต่อไป

พล.อ.ศิริชัยกล่าวว่า ภาพรวมของข้อเรียกร้องทั้ง 5 ข้อ ในปีนี้เป็นสิ่งที่กระทรวงเเรงงานกำลังเร่งดำเนินการทั้งการคุ้มครองเเรงงานเเละเพิ่มสิทธิประโยชน์ เช่นการแก้ไขมาตรา 39 นำผู้ประกันตนที่หลุดจากการเป็นผู้ประกันตนกลับเข้ามาในระบบ รวมถึงมีการเเก้ไขมาตรา 40 เพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับเเรงงานนอกระบบ อาทิ การเพิ่มเงินชดเชยการขาดรายได้จากการเจ็บป่วยเเละเพิ่มค่าทำศพ และสิ่งสำคัญคือการดูแลแรงงานนอกระบบ 20 กว่าล้านคน ปีนี้มีการยกร่าง พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงานนอกระบบ ที่จะเร่งให้แล้วเสร็จภายในรัฐบาลนี้

พล.อ.ศิริชัยกล่าวต่อว่า สำหรับการที่ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่การเป็นไทยแลนด์ 4.0 ที่จะมีการใช้เทคโนโลยีมากขึ้นนั้น แรงงานไม่ต้องกังวลเรื่องการตกงาน เพราะกระทรวงมีการปรับ เสริม การทำงานให้สอดคล้องกัน มีการพัฒนาเสริมศักยภาพแรงงานทุกระดับตั้งแต่ 1.0, 2.0, 3.0 และ 4.0 ซึ่งกำลังรวบรวมข้อมูลว่าจะปรับแต่ละกลุ่มอย่างไร ทั้งนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญกับแรงงานมากเพราะเป็นผู้ที่มีบทบาทในการสร้างบ้าน สร้างเมือง การจัดงานวันแรงงานปีนี้นับเป็นโอกาสที่ดีที่ทำให้กระทรวงได้มีการทบทวนว่าที่ผ่านมามีการดำเนินการอะไรไปแล้วบ้าง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image