หากการออกคำสั่ง “ปลดบอร์ดสสส.” เป็นความผิดพลาด การทบทวนคำสั่งอีกครั้งน่าจะช่วยลบ “ความผิดพลาด”ลงได้
แล้วเหตุใด “ประชาคมสาธารณสุข” จึงเฉย
แล้วเหตุใดจึงไม่ปรากฏ “ปฏิกิริยา” ใดให้เห็นไม่ว่าจะจาก นพ.ประเวศ วะสี ไม่ว่าจะจาก นพ.มงคล ณ สงขลา
ทุกคนดำรงอยู่เหมือนกับเป็น “หลักศิลา”
ยิ่งท่าทีและการสำแดงออกล่าสุดของ นพ.วิชัย โชควิวัฒน ในการให้สัมภาษณ์ต่อ “มติชน”
ยิ่งชวนให้ “พิศวง” ยิ่งชวนให้ “งงงวย”
เพราะเป็นประโยคที่ว่า “ผมไม่ติดเรื่องชื่อเสียง ผมไม่หวั่นไหวในโลกธรรม ทุกอย่างเสื่อมได้หมด”
แล้วตามมาด้วย “ผมปล่อยวาง”
ท่าทีและท่วงทำนองของ “พี่หมอ” ทั้งหลายไล่เรียงตั้งแต่ นพ.ประเวศ วะสี มายัง นพ.มงคล ณ สงขลา ตลอดจน นพ.วิชัย โชควิวัฒน
ดำเนินไปบนพื้นฐานแห่ง “ตถตา”
ถามว่า “ทำไม”
คำตอบไม่มีอะไรสลับซับซ้อน คำตอบไม่จำเป็นต้องอ้างอิงตำราหรือปราชญ์แต่โบราณให้มากความ
1 เพราะการออกคำสั่งเป็น “ความผิดพลาด”
ขณะเดียวกัน ความผิดพลาดนั้นมิได้เป็นความผิดพลาดอย่างธรรมดาและสามัญปรกติ
หากเป็นความผิดพลาดในทาง “ยุทธศาสตร์”
อีกคำตอบ 1 เพราะสิ่งที่ “คสช.” และสิ่งที่ “รัฐบาล” กระทำด้วยการทบทวนคำสั่งเสมอเป็นเพียง
กระบวนการในทาง “ยุทธวิธี” เท่านั้น
เมื่อเป็นเพียงกระบวนการในทางยุทธวีธีก็เข้าลักษณะของการปะผุ ตบแต่ง สร้างสีสัน เท่านั้นเอง
ความผิดพลาด ก็ยังเป็น “ความผิดพลาด” อยู่
จึงไม่อาจสัมผัสได้ในความตื่นเต้นดีใจจาก นพ.ประเวศ วะสี จึงไม่อาจสัมผัสได้ในความตื่นเต้นดีใจจาก นพ.มงคล ณ สงขลา จึงไม่อาจสัมผัสได้ในความตื่นเต้นดีใจจาก นพ.วิชัย โชควิวัฒน
แม้ นพ.พลเดช ปิ่นประทีบ จะยังเป็น “เหมือนเดิม”
นั่นก็คือ เป็นคนที่พร้อมจะร่วมมือกับ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ในการขับเคลื่อนสิ่งที่เรียกว่า “ประชารัฐ”
แต่ นพ.ประเวศ วะสี ไม่น่าจะเหมือนเดิม
แต่ นพ.มงคล ณ สงขลา ไม่น่าจะเหมือนเดิม
ยิ่งกว่านั้น นพ.วิชัย โชควิวัฒน ก็ยิ่งจะไม่เหมือนเดิม
เพราะความเป็นจริงก็คือ “คำสั่ง” ส่งผลให้ไม่เพียงแต่จะมีการปรับขบวนแถวภายใน “บอร์ดสสส.” ขึ้นใหม่เท่านั้น
หากแต่ “เครือข่าย” ของ “สสส.” ก็อ่อนระเนนเอนราบ
พลันที่กรมสรรพากรรับลูกจากคณะกรรมการตรวจสอบการใช้งบประมาณภาครัฐ(คตร.)
คำสั่งเรียกตัว มูลนิธิ หน่วยงานภาคประชาสังคม ก็ “บังเกิด” ขึ้น
เป็นการเรียกตัวไปเพื่อตรวจสอบภาษีในฐานะที่ “รับจ้าง” ทำของให้กับแต่ละโครงการของสสส.
รวมแล้วมากกว่า 2,000 องค์กร
ต่อให้เปิดเพลง “ขอให้เหมือนเดิม” ดังกระหึ่มยิ่งกว่าเพลง “คืนความสุข”หรือ “รักเธอประเทศไทย”
ทุกอย่างก็ยากที่จะ “เหมือนเดิม”