ติดดาบสตง. มีอำนาจยับยั้งประชานิยม หารือร่วม’กกต.-ป.ป.ช.’ บี้’รัฐสภา-ครม.’ได้

กรธ.ติดดาบ สตง. หารือร่วม “กกต.-ป.ป.ช.” บี้ “รัฐสภา-ครม.” ยับยั้งประชานิยม

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 9 พฤษภาคม ที่ รร.รามาการ์เด้นส์ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) จัดสัมมนา เรื่อง “การรับฟังความคิดเห็นร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน พ.ศ… ถือเป็นการรับฟังความคิดเห็นกฎหมายลูกครบทั้ง 10 แล้ว โดย นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. กล่าวเปิดการการสัมมนาตอนหนึ่งว่า ถ้าสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ไม่เข้มงวดเงินหลวง เงินแผ่นดินก็จะถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด ไม่เกิดประโยชน์กับประชาชน กรณีการใช้เงินโดยไม่สุจริตก็ต้องไปว่ากัน แต่กรณีใช้โดยสุจริตแล้วเกิดผิดพลาด จะวางกติกาให้ต้องทำอย่างไร ไม่ให้ต้องรับผิดชอบภายหลัง ตรงนี้ทาง กรธ.กำลังคิดหาวิธีกันอยู่ เพื่อไม่ให้คนเหล่านี้ได้รับความผิดหรือผลกระทบที่ไม่เหมาะสม ขณะเดียวกัน กรธ.ยังคิดอีกว่า จะทำกฎหมายออกมาในลักษณะใดที่ให้การตรวจสอบงบประมานของภาครัฐ ไม่ซ้ำซ้อนหน้าที่ของ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพราะจะเป็นอันตรายกับระบบราชการได้ในอนาคต

นายมีชัยกล่าวว่า เบื้องต้น จะให้ สตง.มีหน้าที่ในการตรวจสอบงบประมานภาครัฐว่า มีความถูกต้องหรือไม่ เพื่อให้ ป.ป.ช.ยึดรายงานจาก สตง.เป็นหลักเพื่อดำเนินการสอบสวนเชิงลึกต่อ และต้องมีการประสานงานทางข้อมูลต่างๆ ร่วมกันระหว่าง สตง.และ ป.ป.ช. ส่วนการตรวจสอบ งบประมานของหน่วยงานอย่าง ป.ป.ช.จึงมีคำถามว่า สตง.จะสามารถทำได้หรือไม่ หากพบว่า ป.ป.ช.มีการใช้งบประมาณโดยมิชอบ เนื่องจากผู้ที่เข้ามาตรวจสอบการทุจริตของ ป.ป.ช.ก็คือ เจ้าหน้าที่ของ ป.ป.ช.เอง ซึ่งก็ได้ยินมาว่าเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.มีอิทธิพลถึงขนาด ป.ป.ช.กลัว ส่วนการตรวจสอบการใช้งบประมาณของสตง.คือ กรมบัญชีกลาง แต่มักเป็นการตรวจสอบเบื้องต้นแบบผ่านๆ ไม่เห็นมีการทักท้วงอะไร กรธ.จึงมองว่า ถ้าให้กรมบัญชีกลางทำหน้าที่บนพื้นฐานที่ สตง.เคยทำ จะเหมาะสมหรือไม่ เพื่อให้เกิดเป็นมาตรฐานในการตรวจสอบและใช้ระบบแบบเดียวกัน และเมื่อไหร่ที่ สตง.พบการใช้จ่ายเงินของรัฐไม่ถูกต้องตามวินัยการเงินการคลัง ก็สามารถประชุมร่วมกับองค์กรอิสระอื่น เพื่อท้วงติงรัฐบาลได้

ต่อมา นายพิศิษฐ์ ลีลาวชิโรภาส ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน กล่าวว่า รัฐธรรมนูญฉบับล่าสุด มีการเพิ่มบทบาทหน้าที่นอกเหนือจากตรวจสอบทางกฎหมาย แต่ยังเพิ่มเติมสาระสำคัญจากเดิม เช่น ให้สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) อาจเสนอความเห็นต่อคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) ที่อาจพบว่าจะมีการใช้จ่ายเงินที่อาจก่อให้เกิดความเสียหาย หรือประชานิยม ลดแลกแจกแถม หากเห็นว่า การใช้เงินนั้น มีลักษณะหาเสียง ก็ไม่ใช่เพียงแค่ส่งเรื่องไปยัง ป.ป.ช. แต่ยังต้องส่งไปยัง กกต.ด้วย เพื่อวินิจฉัยตามกฎหมายที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง โดยเฉพาะในกรณีที่เอาเงินแผ่นดินไปหาเสียง เมื่อคตง.เห็นว่า เข้าข่ายก็จะไปหารือร่วมกับ ป.ป.ช.และกกต. หากเห็นพ้องกันว่า การใช้จ่ายเงินเหล่านั้นจะก่อให้เกิดความเสียหาย ก็ต้องแจ้งไปยัง รัฐสภาและครม. โดยไม่ชักช้า แต่ทั้งนี้ ควรมีมาตรการกำหนดให้เกิดผลในทางปฏิบัติอย่างจริงจัง

Advertisement

นายพิศิษฐ์กล่าวว่า ด้านการใช้เงินในทางราชการไม่เหมาะสม ไม่เกิดประโยชน์แก่ประชาชน มีผลประโยชน์ทับซ้อน ก็จะส่งให้ผู้ตรวจการแผ่นดินเป็นผู้พิจารณา ส่วนการติดตามทวงคืนความเสียหายของรัฐที่เกิดขึ้นแล้ว หากหน่วยงานที่รับผิดชอบไม่ดำเนินการ สตง.มีอำนาจติดตามการทวงคืนเหล่านี้ แม้ไม่มีตัวแทนความเสียหายแทนประชาชน ก็อาจกำหนดให้ สตง.เป็นผู้เสียหายแทนประชาชน สามารถฟ้องร้องได้ ทั้งนี้ อยากให้มีการกำหนดเพิ่มเติมว่า สำหรับการกระทำที่ฝ่าฝืนหลีกเลี่ยง จนก่อให้เกิดความเสียหาย นอกจากผิดวินัย อาญา และแพ่งแล้ว ควรต้องมีโทษปรับทางปกครองเพิ่มเติมด้วย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image