สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นายมุน แจ อิน ประธานาธิบดีเกาหลีใต้คนใหม่ ต่อสายโทรศัพท์พูดคุยกับผู้นำจีนและญี่ปุ่นเมื่อวันพฤหัสบดี(11 พ.ค.) ไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเขาได้โทรศัพท์หารือกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ไปเมื่อคืนก่อนหน้า ในการกำหนดแนวทางที่จะดำเนินความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือ
สำนักงานของนายมุนเปิดเผยว่า ในการพูดคุยหารือของประธานาธิบดีมุน กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน นานราว 40 นาที ผู้นำทั้งสองต่างเห็นพ้องกันว่าการปลดนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลีถือเป็นเป้าหมายร่วมกันของทั้งสองประเทศ โดยนายมุนยังร้องขอให้มีการเจรจาไปพร้อมกับการคว่ำบาตรและการกดดันเกาหลีเหนือ ทั้งนี้เพื่อให้เกาหลีเหนือกลับสู่การเจรจา
นายยุน ยอง ชาน โฆษกประธานาธิบดีเกาหลีใต้ กล่าวว่า ในการหารือ ผู้นำเกาหลีใต้ยังบอกกับผู้นำจีนว่าเขาตระหนักดีถึงความเป็นกังวลของจีนที่มีต่อการติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธ(ทาด)ของสหรัฐในดินแดนเกาหลีใต้ จึงขอให้มีการหารือทวิภาคีเพื่อสร้างความเข้าใจระหว่างกันในเรื่องนี้ให้มากขึ้น ผู้นำทั้งสองยังเห็นพ้องกันด้วยที่จะให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนของทูตพิเศษในเร็ววันนี้ ซึ่งนายมุนได้เสนอที่จะส่งคณะผู้แทนรัฐบาลไปยังกรุงปักกิ่ง เพื่อหารือกันอย่างครอบคลุมในเรื่องทาดและประเด็นนิวเคลียร์เกาหลีเหนือ นอกจากนี้ ผู้นำเกาหลีใต้ยังขานรับแนวทางเดียวกับผู้นำสหรัฐ ที่เสนอแนะให้จีน ชาติพันธมิตรหนึ่งเดียวและเป็นเส้นเลือดเศรษฐกิจหล่อเลี้ยงเกาหลีเหนือ ให้ช่วยเกลี้ยกล่อมเกาหลีเหนือ โดยชี้ว่า “การแก้ปัญหาเรื่องทาดนั้นจะง่ายขึ้น หากไม่มีการยั่วยุจากเกาหลีเหนือ” ทั้งนี้ ผู้นำจีนยังเชิญผู้นำเกาหลีใต้คนใหม่มาเยือนกรุงปักกิ่งด้วย
ด้านสำนักข่าวจิจิเพรสของญี่ปุ่นรายงานว่า ผู้นำเกาหลีใต้คนใหม่ยังโทรศัพท์มาหารือกับนายชินโสะ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น แต่ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดของการหารือ
ขณะที่เมื่อคืนก่อนหน้านั้น ประธานาธิบดีมุนได้โทรศัพท์พูดคุยกับประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งผู้นำทั้งสองเห็นพ้องที่จะร่วมมือกันอย่างใกล้ชิดในการจัดการกับความทะเยอทะยานด้านนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ
