3 ปี ของ คสช. บทเพลงคืนความสุข ความสุขใคร

แฟ้มภาพ

ยิ่งใกล้ถึงวันที่ 22 พฤษภาคม ยิ่งมี “คำถาม” เกิดตามมา ไม่ว่าจะในเรื่องการเมือง ไม่ว่าจะในเรื่องเศรษฐกิจ และไม่ว่าจะในเรื่องวัฒนธรรม

1 ถามถึง “มูลเชื้อ”

อะไรคือเหตุปัจจัยให้เกิดสถานการณ์อันนำไปสู่การตัดสินใจยึดอำนาจโดยวิธี “รัฐประหาร” เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557

กปปส.ก็จะตอบไปอย่างหนึ่ง คสช.ก็จะตอบไปอย่างหนึ่ง

Advertisement

ขณะเดียวกัน หากถามพรรคเพื่อไทย หากถาม น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร หากถาม นายจตุพร พรหมพันธุ์ ก็จะตอบไปอีกอย่างหนึ่ง

เพราะแต่ละฝ่ายมี “มุมมอง” ต่างกัน

กปปส.มองจากมุมที่ตนเป็นฝ่ายกระทำ เป็นฝ่ายเคลื่อนไหว ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2556 คสช.มองจากมุมที่ตนตัดสินใจประกาศยึดอำนาจ

Advertisement

พรรคเพื่อไทยมองจากมุมที่ถูกกระทำ นปช.มองจากมุมที่ถูกกระทำ

ยิ่งกว่านั้น คำถาม 1 ซึ่งมากด้วยความแหลมคมก็คือ อะไรคือ “ผลงาน”

 

หากเริ่มต้นจากประเด็นที่ว่ารัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 มาจากความขัดแย้ง ความแตกแยกที่ดำรงอยู่ในสังคม

ได้ขยายตัวอย่างใหญ่หลวงทำให้จำเป็นต้องมา “แก้ไข”

คำถามที่ตามมาก็คือ เวลา 3 ปีที่ คสช.เข้ามาดำรงอยู่ในสถานะแห่ง “กรรมการ” สามารถจัดการกับปัญหาความขัดแย้ง ความแตกแยกได้แค่ไหน อย่างไร

น่าสงสัยอย่างยิ่ง

น่าสงสัยว่า คสช.อยู่ในสถานะอันเป็น “กรรมการ” อย่างแท้จริง มีความเที่ยงธรรมอย่างเป็นที่ประจักษ์แก่สังคมหรือไม่

ก็ยังน่าสงสัยอยู่

เพราะคดีอันเนื่องแต่การยึดทำเนียบรัฐบาล การยึดสนามบิน ตั้งแต่เมื่อเดือนสิงหาคม 2551 จนป่านนี้ยังไปไม่ถึงไหน

ขณะที่คดีจากเดือนเมษายน 2552 ติดคุกไปแล้ว

 

ยิ่งกว่านั้น การเปิดตัวเรื่อง “ปรองดอง สมานฉันท์” อันอึกทึกครึกโครมเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ถามว่าผลเป็นอย่างไร

มีคำตอบจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือไม่

มีคำตอบจาก พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หรือไม่

ความอึกทึก ครึกโครม อาจจะมาจาก “การตลาด” อย่างเข้มข้นจากมือวางระดับ ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ แล้วผลเป็นอย่างไร

ยังไม่สามารถและยังมิอาจตอบได้

การทำ “ข้อตกลง” ในลักษณะ “สัญญาประชาคม” อันเป็นหน้าที่ตามความมอบหมายต่อทหารและกองทัพก็ยังมองไม่เห็นรูป เห็นร่าง

ทุกอย่างยัง “เลื่อนลอย” และ “ว่างเปล่า”

ว่างเปล่าเหมือนกับคำป่าวร้องในเรื่อง “ไทยแลนด์ 4.0” ขณะที่เริ่มปฏิบัติการซิงเกิล เกตเวย์อย่างลับๆ ขณะที่แอบให้ สปท.ผลักดันร่างกฎหมาย “ควบคุมสื่อ” ออกมา

ทุกอย่างดำเนินไปอย่าง “กลวง”

เป็นเรื่องของ “โวหาร” ขณะที่ปฏิบัติการเป็นจริงกลับเป็นหนังคนละม้วน

 

ยิ่งใกล้จะถึงวันที่ 22 พฤษภาคม จึงยิ่งมากด้วยความระทึกท่ามกลางการ
รอคอยจากทุกๆ ฝ่าย

รอคอยที่จะได้ยินเพลง “คืนความสุข”

รอคอยที่จะสัมผัสกับบรรยากาศแห่งประชาธิปไตยในห้วงแห่งการลง “ประชามติ”

รอคอยการปลดล็อก “พรรคการเมือง” ก่อน “การเลือกตั้ง”

รอคอยว่าเวลา 3 ปีของการเหลา “ไม้ไผ่” จะออกมาเป็นอะไรกันแน่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image