ขรรค์ชัย-สุจิตต์ บุกรื้อประวัติศาสตร์ไทย ยัน’อู่ทอง’คือต้นทาง แนะพัฒนาคูเมืองโบราณทั่วประเทศ

เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม ที่เมืองโบราณอู่ทอง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี “มติชนออนไลน์” ถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊ก ในหัวข้อ “เมืองอู่ทอง อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี ต้นทางประวัติศาสตร์ไทย เพราะกรุงสุโขทัย ไม่ใช่ราชธานีแห่งแรก” โดยนายขรรค์ชัย บุนปาน ประธานกรรมการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) และนายสุจิตต์ วงษ์เทศ คอลัมนิสต์เครือมติชน

นายสุจิตต์กล่าวว่า เมืองอู่ทองถือเป็นต้นทางประวัติศาสตร์ไทย เพราะจากการศึกษาทางธรณีวิทยาบ่งชี้ว่า ในตะกอนทับถมพบชุมชนใหญ่ในแถบนี้ตั้งแต่ราว พ.ศ.500 คือราว 2,000 ปีมาแล้ว นอกจากนี้ยังพบหลักฐานทางโบราณคดีที่สำคัญ เช่น เสมาธรรมจักรยุคทวารวดี รวมถึงวัดร้างหลายแห่ง

“เอกสารโบราณของอินเดียและลังกาเรียกดินแดนอู่ทองว่าสุวรรณภูมิ ต่อมามีรัฐสุพรรณภูมิ ที่ได้ร่วมกับรัฐอโยธยา-ละโว้ สถาปนากรุงศรีอยุธยาเป็นราชอาณาจักรสยามแห่งแรก แล้วสืบเป็นกรุงธนบุรี เป็นกรุงรัตนโกสินทร์ จนปัจจุบันเป็นประเทศไทย อู่ทองจึงถือเป็นต้นทางประวัติศาสตร์ไทย และสุโขทัยจึงไม่ใช่ราชธานีแห่งแรก”

Advertisement

นายสุจิตต์กล่าวอีกว่า คูเมืองโบราณทางทิศตะวันออกของเมืองอู่ทองอยู่ในบริเวณที่เป็นสถานที่ราชการเลียบถนนมาลัยแมน อาทิ ที่ว่าการอำเภอและโรงเรียน น้ำในคูเมืองจึงใสสะอาด สวยงาม แตกต่างจากคูเมืองทางทิศตะวันตก ซึ่งตนพามาเยี่ยมในวันนี้ เดิมก่อน พ.ศ.2551 มีสภาพตื้นเขิน แทบไม่มีน้ำ บนสันคูเมืองยังเต็มไปด้วยบ้านเรือนในชุมชนแออัด มีปัญหายาเสพติด เมื่อนายขรรค์ชัยมาพบเข้า จึงแจ้งนายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 21 นายบรรหารจึงระดมประสานการบูรณะ ทำความสะอาด และพัฒนาคูเมืองอู่ทองทางทิศตะวันตก หลัง พ.ศ.2551 จนมีสภาพสวยงาม สะอาดตาดังเช่นปัจจุบัน

“ปัญหาเรื่องคูเมืองโบราณที่ตื้นเขิน และถูกปล่อยปละละเลยเกิดขึ้นทั่วประเทศไทย ไม่ใช่แค่อู่ทอง ถ้าคุณบรรหารไม่ได้เข้ามาดูแลตรงนี้ สันคูเมืองคงกลายเป็นตึกแถวเหมือนกับหลายๆ จังหวัดไปแล้ว” นายสุจิตต์กล่าว

ด้านนายขรรค์ชัยกล่าวว่า คูเมืองทั่วประเทศควรได้รับการพัฒนา กักเก็บน้ำ ไม่ปล่อยให้ตื้นเขิน ซึ่งนอกจากความร่มเย็นแล้ว ยังสามารถเป็นแหล่งท่องเที่ยวได้อีกด้วย

Advertisement

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image