หมายเหตุ-พ.อ.ปิยพงศ์ กลิ่นพันธุ์ รองผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 (พล.ร.9) ในฐานะรองหัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ส่วนงานรักษาความสงบ สำนักงานเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ชี้แจงการบริหารงานของ คสช. ครบรอบ 3 ปี วันที่ 22 พฤษภาคมนี้
มีคำถามที่เกิดขึ้นช่วงที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้ามาควบคุมอำนาจและบริหารประเทศ ด้วยการสนับสนุนการบริหารราชการแผ่นดินให้กับรัฐบาลปัจจุบัน อาจมีคำถามว่า คสช.ได้ทำอะไรบ้าง มีผลสัมฤทธิ์อะไรบ้าง มีความคาดหวังและพอใจอะไรหรือไม่ ในฐานะที่ผมทำงานประชาสัมพันธ์ คสช. สร้างการรับรู้ทำความเข้าใจให้กับประชาชน ขออนุญาตทำความชี้แจงทำความเข้าใจ อย่างแรกงานหลักของ คสช.คือดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง เพื่อให้เกิดความมั่นคงปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สนับสนุนการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล เห็นได้ว่าตลอดระยะเวลา 3 ปี ที่กำลังจะครบในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ ภาพรวมของบ้านเมืองมีความสงบเรียบร้อย ประเทศชาติเดินหน้าพัฒนาต่อไปเป็นระยะๆ ไม่มีลักษณะการชุมนุมประท้วงก่อให้เกิดความขัดแย้งแตกแยกสามัคคี แต่อาจมีบ้างที่มีการมายื่นหนังสือร้องเรียนหรือเรียกร้องต่อปัญหาความเดือดร้อน ถือว่าเป็นระบบ ทุกฝ่ายเข้าใจในกฎกติกาของการอยู่ร่วมกัน หากประชาชนมีเรื่องเดือดร้อนและมายื่นหนังสือร้องเรียนแล้วก็กลับไป ให้เวลารัฐบาล คสช.ในการแก้ปัญหาเหล่านั้น ที่ผ่านมาจึงไม่มีความรุนแรง บาดเจ็บหรือสูญเสียจากการประท้วง เกิดความเชื่อมั่นในความปลอดภัยของการใช้ชีวิตคนไทยและชาวต่างชาติ
เมื่อเกิดบรรยากาศของความสงบแล้ว ก็อาจมีปัญหาเรื้อรังที่ยังแก้ไขไม่ได้ จึงมีการใช้มาตรา 44 อย่างสร้างสรรค์เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาในระยะสั้น มีการบูรณาการคน ระบบการทำงาน งบประมาณ เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน เกิดเป็นระบบที่คล่องตัวขึ้น มีการแก้ไขข้อกฎหมายที่ไม่ทันสมัยต่อระยะเวลา กฎหมายที่ซ้ำซ้อน จัดระเบียบสังคม เปิดโอกาสในเข้ามามีส่วนร่วมโดยผ่านกลไกประชารัฐ มีการเดินหน้าประเทศด้วยการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ ต่อการสู้ภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลก การวางยุทธศาสตร์ประเทศเพื่อเป็นกรอบระยะเวลา 20 ปี เพื่อให้เห็นทิศทางและเป้าหมายอนาคตประเทศเพื่อให้เกิดความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน โดยใช้ศาสตร์ของพระราชา
ปัจจุบันมีรัฐธรรมนูญที่ได้รับพระราชทานลงมาแล้วมีผลบังคับใช้ กลไกทางด้านยุติธรรมเดินหน้า การป้องกันปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นมีมาตรการ การบังคับการใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น มีการจับกุมเครือข่ายอาวุธสงคราม ยาเสพติด บ่อนการพนัน น้ำมันเถื่อน คสช.ไม่ได้ละเว้นใครเป็นพิเศษ เจ้าหน้าที่รัฐอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน ส่วนเรื่องเศรษฐกิจเราอาจจะรู้สึกว่ายังไม่คล่องตัวมากนัก เพราะมีปัจจัยหลายอย่างซึ่งหน่วยงานด้านเศรษฐกิจพยายามชี้แจงทำความเข้าใจ ผลักดันการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว มีการแก้ไข การปฏิรูปประเทศ เช่น การลงทุนโครงการพื้นฐาน ถนนสายอาเซียน ท่าเรือน้ำลึก การพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายใน กทม.และปริมณฑล การจัดทำเขตเศรษฐกิจพิเศษ ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก สามเหลี่ยมเศรษฐกิจภาคใต้ เป็นสิ่งที่ คสช.และรัฐบาลได้ทำเพื่อประเทศชาติ สร้างรากฐานมั่นคงเพื่อประชาชน ในปัจจุบันอาจมองดูแล้วยังไม่เห็นผลสัมฤทธิ์ แต่ก็จะพัฒนายิ่งขึ้นไปตามลำดับ ส่วนรูปแบบการแถลงผลงาน 3 ปี คสช. เบื้องต้นจะมีสกู๊ปผลงานในรายการเดินหน้าประเทศไทย เป็นช่วงต่อเนื่อง 1-2 วัน จะนำมาชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบ ตอบข้อซักถาม
@ ฝ่ายการเมืองมองว่า คสช.และรัฐบาล สอบตกด้านเศรษฐกิจและด้านสังคม
เป็นไปหลายมุมมอง มุมมองของผู้ปฏิบัติมีตัวเลขของเศรษฐกิจที่เป็นตัวชี้วัดที่เจริญเติบโต แต่บางฝ่ายอาจมองว่ายังไม่คืบหน้าเท่าที่ควรจะเป็น น่าจะต้องทำเช่นนั้นเช่นนี้ อะไรที่เป็นข้อแนะนำ คสช. รัฐบาลพร้อมรับฟังและนำไปปรับปรุงแก้ไขอยู่ตลอดเวลา ไม่ได้เพิกเฉย แต่ต้องเรียนชี้แจงทำความเข้าใจว่า เศรษฐกิจของประเทศไทยคงไม่ได้เป็นเศรษฐกิจเฉพาะประเทศเดี่ยว เรามีข้อตกลงผูกมัด มีความเกี่ยวเนื่องระบบเศรษฐกิจในอาเซียน ระบบเศรษฐกิจของโลก ถ้าเกิดมีการกระทบจากปัจจัยภายนอกก็อาจส่งผลต่อเศรษฐกิจภายในประเทศ คสช.ยอมรับว่าอาจยังไม่ได้ดังใจตามความต้องการ หรือความรู้สึกอัตคัดฝืดเคือง ก็ต้องทำความเข้าใจว่ามีปัจจัยอะไรที่ส่งผลด้วย เรื่องเหล่านี้หน่วยงานด้านเศรษฐกิจพยายามชี้แจงทำความเข้าใจเป็นระยะๆ
@ สิ่งที่ คสช.และรัฐบาล ต้องเร่งแก้ไขปรับปรุงเพื่อให้เป็นรูปธรรม
อย่างแรกที่ต้องยืนยันตามข้อเท็จจริงทุกครั้งที่ชี้แจงคือ คสช.มีระยะเวลาทำงานตามโรดแมป ในปีนี้มีงานสำคัญหลายงาน อาทิ สนับสนุนงานรัฐบาล งานด้านการเมืองคงดำเนินต่อไป นำไปสู่กระบวนวางแผนการหาเสียงและจัดการเลือกตั้งในปี 2561 ทุกอย่างมีกรอบห่วงระยะเวลาอยู่แล้ว คสช.จะต้องสนับสนุนรัฐบาลบริหารราชการแผ่นดินให้ได้ตามที่วางแผนไว้ เป็นไปตามแผนงานที่กำหนด และส่งต่อแผนงานไปสู่รัฐบาลใหม่ให้เกิดความเรียบร้อยอย่างดีที่สุด เพื่อให้รัฐบาลใหม่สานต่อตามกรอบนโยบายตามที่รัฐธรรมนูญได้บังคับใช้
@ ให้คะแนนการทำงาน คสช.ในห้วง 3 ปีอย่างไร
ในข้อเท็จจริง คสช.ไม่กล้าให้คะแนนตนเอง หากเปรียบ คสช.เหมือนนักเรียน หรือผู้ที่จะเข้าสอบแข่งขัน ต้องให้คนที่มองจากภายนอก หรือฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนเป็นผู้ประเมิน จะได้ไม่เกิดความมีอคติ หรือเข้าข้างตนเอง แต่ คสช.พยายามทำงานของตนเอง บริหารบ้านเมืองให้เกิดความสงบสุขร่มเย็น ประชาชนทุกคนสามารถมีชีวิตอยู่ในประเทศอย่างมีความสุขตามสมควร มีรูปแบบการวางรากฐานการพัฒนาประเทศอย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน อะไรที่้เป็นปัญหาอุปสรรคต้องได้รับการแก้ไขโดยทันที เพื่อให้ประชาชนได้รับความรู้สึกว่าสามารถพึ่งพาได้กับ คสช.และรัฐบาลนี้ มีความทุกข์ต้องได้รับการแก้ไขผ่อนคลาย จัดระเบียบสังคมให้คนเคารพกฎหมายเดียวกัน ที่สำคัญในห้วงระยะเวลานี้คือ กระบวนการปรองดองของคนในชาติที่มีความคิดเห็นต่างกัน ก็ได้ดำเนินการให้หันหน้าเข้าหากัน พูดคุยกัน แก้ปัญหาให้ดีที่สุด
“ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นและศรัทธา และไว้วางใจ คสช.จะพยายามทำงานให้ดีที่สุด เพื่อไม่ให้พี่น้องประชาชนรู้สึกผิดหวัง เสียโอกาสของตนเอง หรือของประเทศชาติ รัฐบาลและ คสช.จะต้องดำเนินการไปในสิ่งที่มองแล้วว่าประโยชน์สุขของประชาชน ความมั่นคงของประเทศชาติ การดูแลเทิดทูนและรักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ ให้เกิดความผาสุกร่มเย็น สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นเรื่องที่สำคัญที่รัฐบาลและ คสช.จะทำอย่างดีที่สุด เพื่อให้ประชาชนมีความสุขอยู่ร่วมกันในประเทศ”
