เมื่อเวลา 09.20 น. วันที่ 19 มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงสถานการณ์ภัยแล้งว่า ส่วนใหญ่จะเป็นด้านการเกษตร ส่วนน้ำสำหรับการอุปโภคมีปัญหาอยู่บ้างแต่เป็นส่วนน้อย ซึ่งจะเหมือนกันทุกปีในพื้นที่แล้งซ้ำซากคือจะเกิดขึ้นในพื้นที่เดิม โดย 2 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้ทำประปาหมู่บ้านเพิ่ม 1,000 แห่ง และตั้งใจให้ปี 2560 มีจำนวนเพิ่มขึ้น เพราะจะมีพื้นที่ที่ไม่มีแหล่งน้ำกว่า 1,000 แห่ง ซึ่งต้องเจาะบาดาลโดยกระทรวงทรัพยากรณ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำลังดำเนินการอยู่
ทั้งนี้จังหวัดที่ประกาศภัยแล้วนั้นไม่ได้เป็นทั้งจังหวัดแต่เป็นบางอำเภอเท่านั้น ซึ่งก็ได้เตรียมมาตรการสำรวจความเสียหาย โดยมีคณะกรรมการลงไปสำรวจแล้วกลับมาหาแนวทางเยียวยา อย่างไรก็ตามกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ลงพื้นที่ช่วยเหลือและทำความเข้าใจประชาชนอยู่แล้วว่าการที่ปลูกพืชที่ใช้น้ำมากควรจะต้องพิจารณาให้ดี แต่เมื่อเขาปลูกไปแล้วเราก็ต้องหาทางช่วยเหลือ
เมื่อถึงถามถึงกระแสการแย่งน้ำในพื้นที่ต่างๆ พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า ต้องร่วมกับส่วนที่มีหน้าที่บริหารจัดการน้ำ ช่วยกันทำให้สถานการณ์ผ่านพ้นไปให้ได้ โดยเราจะต้องดูแลทั้งนั้นไม่ว่าเป็นพืชสวน พืชไร่ ถ้ามีน้ำก็สามารถดูแลได้ แต่ถ้าไม่มีน้ำก็จะใช้มาตรการเยียวยา ทั้งนี้การจะประกาศพื้นที่ภัยแล้งให้เป็นไปตามสถานการณ์ดีกว่า และคงไม่มากกว่าที่ประกาศไว้
