“บิ๊กจิ๋ว”ชี้รัฐบาล คสช.จะสร้างความปรองดอง100เปอร์เซ็นต์ พร้อมคืนอำนาจให้ ปชช.-แจงประเด็น “เรือดำน้ำ-3จว.ใต้”

เมื่อเวลา 09.50น. วันที่ 14 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านภายในซอยปิ่นประภาคม อ.เมือง จ.นนทบุรี ได้มีบรรดาผู้สื่อข่าวจากหลายสำนัก และแขกผู้ใหญ่ ทั้งนายทหาร อดีตนายทหาร นักธุรกิจ รวมถึงอดีตนักการเมือง อาทิ พล.อ.วิชิต ยาทิพย์ อดีตที่ปรึกษากองทัพบก พล.ต.ศรชัย มนตรีวัต (เสธนิด) พล.ท.พิรัช ศวามิวัสดิ์ (เสธหมึก) นายอุดมเดช รัตนเสถียร อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย จังหวัดนนทบุรี นายชวลิต วิชยสุทธิ์ อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย นายคำนวณ ชโลปถัมภ์ อดีตนายกสภาทนายความ ได้ทยอยเดินทางเข้าลงนามมอบกระเช้าอวยพรให้กับ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมคุณหญิงพันธ์เครือ ยงใจยุทธ ภริยา

ภายในงานได้แจกของที่ระลึกเป็นพระเครื่องและหนังสือ “เราจะสร้างความปรองดองกันได้อย่างไร” ทั้งนี้ได้เปิดบ้านภายในซอยปิ่นประภาคม เพื่อจัดงานทำบุญเนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิดครบ 85 ปี เพื่อให้ผู้ที่เคารพนับถือ และบรรดารุ่นน้องนายทหาร และอดีตรัฐมนตรีต่างๆ เข้าอวยพรในวันคล้ายวันเกิดวันนี้

ต่อมาเวลา พล.อ.ชวลิต ได้แจ้งผู้สื่อข่าวขอพูดคุยใน 3 เรื่องหัวข้อหลัก 1.เรื่องเรือดำน้ำ 2.สถานะการณ์ทางภาคใต้ 3.ผลงานของรัฐบาล และได้บอกเล่าอาการของตัวเองที่ลื่นล้มที่ชั้น 5 ของตัวบ้านพักเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน ปีที่ผ่านมา เนื่องจากตัวเองอายุมาก ต้องค่อยๆ ลุกยืน จึงทำให้พลาดล้มฟาดมีเลือดออกเต็มใบหน้า มีเส้นเลือดแตกในสมอง 2 เส้นจึงส่งผลในเรื่องความจำไม่ค่อยดี เจ็บตามแขนขา ประมาณ 6เดือนที่ผ่านมาก็ได้รักษาตัวต่อเนื่องอยู่ภายในโรงพยาบาลวิภาวดี ก็อยากจะออกมาในไม่กี่วันข้างหน้านี้แล้ว คือสิ่งที่จะเล่าให้น้องๆ นักข่าวฟัง

พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า ในส่วนเรื่องแรกคือ ผลงานของรัฐบาลในรอบ 3 ปี ในวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ การจะไปวิเคราะห์ตรงนี้จะต้องค่อนข้างละเอียด เพราะตัวเองเป็นคนตรงไปตรงมาตลอดชีวิตเป็นอย่างนั้นจริงๆ ไม่ได้เข้าข้างใคร การดูผลงานเราต้องรู้เรื่องจริงๆ ไม่ได้รู้แค่บางส่วน แต่รัฐบาลไม่ค่อยฟังอย่างเต็มที่ การวิเคราะห์ต้องรู้ละเอียด พร้อมยืนยันว่าไม่ได้เข้าข้างใคร แต่ส่วนตัวพยายามเอาใจช่วยรัฐบาล และเชื่อว่าประชาชนทราบว่ารัฐบาลชุดนี้เอาจริงกับสิ่งที่ทำอยู่ ซึ่งหลักการปกครองของโลกปัจจุบันหนีไม่พ้นระบอบประชาธิปไตย ที่เป็นหลักที่ถูกต้อง และทุกคนเคยผ่านการต่อสู้แบบนี้มาแล้ว ดังนั้น จึงต้องให้ความรัก ความอดทน และความจริงใจต่อประชาชน และเชื่อว่ารัฐบาลพยายามทำในสิ่งนี้อยู่แล้ว ขณะเดียวกันยังเชื่อว่า คสช.จะคืนอำนาจให้กับประชาชนอย่างแน่นอน ขอฝากความรักความปารถถนาดีต่อรัฐบาล และส่วนตัวเชื่อว่ารัฐบาลนี้จะสร้างความปรองดองสำเร็จ 100 เปอร์เซ็นต์ เพื่อถวายความจงรักภักดีแด่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จึงขอให้ทุกคนช่วยกัน ส่วนกรณีการตั้งพรรคการเมืองหลังมีรัฐธรรมนูญใหม่นั้น ยังไม่มีแนวคิดนี้อยู่ในหัว เพราะวันนี้ประชาชนเคลื่อนไหวด้วยความเข้าใจอยู่แล้ว

Advertisement

“ส่วนเรื่องในปีหน้าหากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นรัฐบาลจะทำตามโร้ดแมปที่วางเอาไว้หรือไม่ อย่างไรก็ตาม แต่หลักการในการปกครองในโลกปัจจุบันหนีไม่พ้นหลักการของการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เพราะประชาธิปไตยเป็นของปวงชน ผมว่าเป็นหลักที่ถูกต้องอย่างไรนะ เราได้ต่อสู้ในสิ่งนี้กันมาแล้วนะลูก 20-30ปี คงจะจำกันได้ ฝ่ายหนึ่งอยากได้อธิปไตยมาครอง แต่มีปวงชน และมวลชนเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ในการดำเนินการทุกสิ่งทุกอย่างเราเลือกที่จะอยู่ในระบอบประชาธิปไตย เราคงจะจำกันได้นะ ผมจำภาพตัวเองได้ที่ไปนั่งขัดหมาดอยู่ในป่า ซึ่งมวลชนมหาชนจะต้องช่วยกันรักษาประชาธิปไตยให้ดีนะ ผมคิดว่าเขาก็คงดำเนินการในสิ่งนี้อยู่แล้ว ในเรื่องทางคสช.จะคืนอำนาจให้ประชาชนหรือไม่ ยังไงก็ต้องคืน ไม่คืนไม่ได้ เพราะเป็นสิ่งที่สำคัญ ที่ผ่านมาเราก็มีบทเรียนเยอะ ซึ่งเราก็อยากให้การบริหารงานสะบายใจ” บิ๊กจิ๋วกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามในส่วนของทางรัฐบาลบริหารงานค่อนข้างเดือดร้อนลำบากเศษฐกิจไม่ค่อยดี ตรงนี้มีความคิดเห็นอย่างไร พล.อ.ชวลิตกล่าวว่า ในชีวิตของตนได้ตั้งเจตนารมย์เอาไว้ ตั้งไว้นานแล้วตั้งแต่ตอนรับราชการและต้องทำให้สำเร็จ คือให้อำนาจอธิปไตยกับปวงชนให้ได้ แน่นอนที่สุดที่รัฐบาลนี้พยายามแก้ไขและทำในสิ่งที่ดี พยายามทำให้เห็นอยู่แล้วและคิดว่าน่าจะดีนะ ทั้งนี้ การจะทำอะไรเพื่อมหาชนให้มีอยู่มีกิน และเป็นเจตนารมย์ในสิ่งแรกเลย ก็คือปัญหาความยากจน ต้องแก้ในปัจจัยหลายอย่างร่วมกัน ไม่ใช้ข้าวต้องเกวียนละ 20,000 บาทถึงจะได้ อย่างประเด็นเรื่องเรือดำน้ำก็หน้าเห็นใจนะบอกตรงๆ ไปต่อว่าเขาไม่ดีนะ ตนว่าเขาน่าจะลืมกล่าวในบางเรื่อง การติดต่อกับมิตรประเทศเป็นเรื่องสำคัญอย่างหนึ่ง อย่างนี้การที่จะมีเรือดำน้ำ ไม่ใช้อย่างที่พวกเราพูดกันเฉยๆ นะ ซึ่งตอนนี้หากทางรัฐบาลจัดซื้อนำเรือดำน้ำเข้ามาถามว่ามีความจำเป็นไหม ขอตอบว่าก็บอกแล้วไงก็สามารถเอามาฝึกกำลังพลได้ ต้องฝึกเอาไว้ไม่ใช้นำเข้ามาแล้วพรุ่งนี้จะใช้งานได้เลยเราต้องฝึกใช้งานให้คล่องต้องใช้เวลา ต้องเห็นใจเข้าใจเขาอาจจะพูดหมดบ้างไม่หมดบ้าง

ด้านเรื่องของสถานะการณ์ทาง 3 ชายแดนภาคใต้นั้น อดีตนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ตนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่พอเหตุการณ์เงียบลงแล้วก็จะตามมาด้วยเหตุรุนแรงทุกที เขาก็สงสัยกันอะไรกัน ขณะนี้มีองค์กรที่เกิดขึ้นคือ มาลาปัตตานี ซึ่งมีความขัดแย้ง กับ บีอาร์เอ็นอยู่ จึงทำให้คนในพื้นที่ภาคใต้มีความรู้สึกว่าแปลกๆ ทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงนั้น มักจะเกิดขึ้นในสถานการณ์ที่เงียบสงบ ขณะเดียวกันมองว่า องค์กรทั้ง 2 องค์กร ควรหันหน้ามาหารือกัน และพูดคุยกัน ส่วนการปรองดองของ 3 จังหวัดชายแดนใต้นั้น จะต้องให้ความรักความเข้าใจกัน อย่าให้ปืน หรือให้กำลังต่อกัน

“ขอให้ทุกคนช่วยสนับสนุนให้เกิดขึ้นซึ่งความเป็นจริงทุกขั้วจะต้องเข้ามาหันหน้าเจรจาพูดคุยกัน ซึ่งอาจารย์วันนอท่านก็พยายามทำเต็มที่อยู่แล้ว ทางคนใต้เขาก็สงสัยนะ อันนี้ขอเล่าแบบตรงไปตรงมานะ อย่าไปว่าใครเขา คนใต้ก็คิดว่าระเบิดอะไรกันแล้วก็เดินกลับกันไป ก็เลยสงสัยกันว่าใช่หรือ ก็เลยบอกว่าใจเย็นๆ มวลชนนั้นหาได้ เพราะนั้น จึงอยากให้ช่วยกันสนับสนุนให้ความรักกันความเข้าใจกันอย่าไปให้ปืน อย่าไปใช้กำลังกัน มันไม่ถูกหลัก และแน่นอนเรื่องปรองดองมันต้องเกิดขึ้นแน่ เราต้องเข้าใจและมานั่งคุยกัน ต้องให้อภัยกัน รักกันด้วยความจงรักภักดีอย่างเต็มที่” พล.อ.ชวลิต กล่าวทิ้งท้าย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image