พิสูจน์ได้แล้วว่า ยุคนี้เป็นยุคที่คนมีไอเดียและความคิดสร้างสรรค์ มีชัยไปกว่าครึ่ง
โดยเฉพาะกับเรื่องธุรกิจ ยิ่งเห็นได้ชัดว่าหลายครั้ง ไอเดียสร้างสรรค์ก็เป็นจุดสำคัญที่ทำให้แบรนด์ต่างๆประสบความสำเร็จ
และจะดีแค่ไหนหากมีพื้นที่ ที่อำนวยความสะดวกทั้งการสรรค์สร้างสิ่งใหม่ๆ ไปจนถึงหยิบเอาไอเดียนั้นมาทำให้เป็นรูปเป็นร่างได้ ทั้งหมดนั้นรวบรวมอยู่ใน “ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ กรุงเทพ” แห่งใหม่ ที่ อาคารไปรษณีย์กลาง ถนนเจริญกรุง ที่ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (ทีซีดีซี) เนรมิตตึกสุดคลาสสิค ให้กลายเป็นแลนด์มาร์กใหม่ ให้เหล่านักออกแบบได้ผุดความคิดเจ๋งๆในบรรยากาศของย่านเมืองเก่า
การย้ายบ้านของศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ จากศูนย์การค้าเอ็มโพเรียม มาสู่อาคารไปรษณีย์กลาง เจริญกรุงนี้ อภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล ผู้อำนวยการสร้างสรรค์งานออกแบบ ฉายภาพรวมว่า เพื่อให้เข้ากับยุคไทยแลนด์ 4.0 ที่ธุรกิจบนโลกดิจิตอล และเทคโนโลยีกำลังมาแรงและเป็นสิ่งที่ขับเคลื่อนประเทศในอนาคต ทีซีดีซีจึงมีภารกิจที่จะผลักดันนักออกแบบรุ่นใหม่ๆให้มีทักษะ และความรู้เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ นอกจากนี้ การย้ายพื้นที่มายังเจริญกรุง ทำให้เรามีภารกิจใหม่ที่สำคัญคือการพัฒนาพื้นที่สร้างสรรค์ เพื่อนำร่องพัฒนาพื้นที่ให้มีระบบนิเวศน์ที่เต็มไปด้วยสีสันและการเคลื่อนไหวใหม่ๆ แหล่งรวมศิลปะ งานสร้างสรรค์ เอื้อต่อการดึงดูด บ่มเพาะ และเติบโตของผู้ประกอบการดิจิตอล พลิกโฉมให้เจริญกรุงกลายเป็นแลนด์มาร์กใหม่ระดับสากล ให้กรุงเทพฯ เป็นเมืองหลวงแห่งการออกแบบโลกในปี 2022
บนพื้นที่ 9000 ตร.ม. ครอบคลุมตึกทั้งหมด 5 ชั้นนั้น กิตติรัตน์ ปิติพานิช รองผู้อำนวยการทีซีดีซี ได้นำชมบรรยากาศทุกซอกทุกมุม เริ่มจาก ชั้น 5 ของตึก ที่ประกอบด้วยครีเอทีฟ สเปซ ที่จัดสรรพื้นที่สำหรับการทำงาน รวมไปถึงหนังสือ เทรนด์ใหม่ๆของโลก และภาพยนตร์คอยบริการ
รวมไปถึงห้องบิสซิเนส เซ็นเตอร์ที่สามารถจองห้องเพื่อรับคำปรึกษาทางธุรกิจต่างๆ มีทั้งหมด 3 ห้อง รวมไปถึงห้องรีเฟรชชิ่ง รูม ที่ภายในมีกลองชุด เกมส์ ให้ผ่อนคลาย รวมไปถึงบอร์ดแม่เหล็กให้ช่วยเผยแพร่ข่าวสารได้แบบที่เห็นแล้วต้องร้องว้าว
ความน่าสนใจของชั้นนี้ยังรวมไปถึงดาดฟ้าภายนอกทั้ง 2 ฝั่ง ที่สามารถมองวิวเจริญกรุงได้อย่างจุใจ ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถนำเอาหนังสือไปอ่านรับลมภายนอกได้ โดยเชื่อว่าบรรยากาศอาจทำให้ความคิดไหลลื่นได้ไม่ยาก
ต่อเนื่องด้วยชั้น 4 หรือส่วนของ รีซอร์ส เซ็นเตอร์ เป็นห้องสมุดที่รวบรวมหนังสือกว่า 5 หมื่นเล่มไว้ภายใน ออกแบบด้วยไฟนีออนเพิ่มแสงสว่าง และฟังก์ชั่นรูม จัดแสดงนิทรรศการต่างๆ ที่ใครก็ตามที่ต้องการความเงียบสงบในการอ่านหนังสือคงจะชื่นชอบ ขณะที่ชั้น 3 ของทีซีดีซีแห่งใหม่ เป็นส่วนของห้องประชุม และโซนใหม่อย่างเมเกอร์ สเปซ ที่ให้คนรุ่นใหม่ผู้มีไอเดีย ได้นำมาลองปฏิบัติสร้างสรรค์ผลงานออกมาเป็นของจริง ผ่านเครื่องปรินท์ 3D เลเซอร์ปริ๊นท์ เครื่องยูวีปริ๊นเตอร์ที่สามารถปริ๊นท์ลงบนผืนหนัง ซึ่งเครื่องต่างๆเป็นเครื่องที่ใช้ในระบบอุตสาหกรรมจริง
หรือหากยังไม่มีไอเดียเป็นรูปเป็นร่าง ในชั้น 2 ของทีซีดีซี เปิดพื้นที่ให้เป็น แมตทีเรียล แอนด์ ดีไซน์ อินโนเวชั่น เซ็นเตอร์ รวมวัสดุต่างๆกว่า 8,000 ชนิดทั่วโลก ให้ได้จับวัสดุจริง แสดงไอเดียวัสดุไทยและอาเซียน ไปจนถึงทำพิกัดร้านค้าที่จะหาซื้อวัสดุต่างๆได้ในพื้นที่หนึ่ง เข้าค้นหาได้ผ่านเว็บไซต์ที่ทำขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย ที่ กิตติรัตน์ ให้เหตุผลไว้ว่า เนื่องจากประสบการณ์ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่มักเข้ามาปรึกษาเรื่องแหล่งวัตถุดิบ จึงเป็นเหตุให้จัดทำฐานข้อมูลให้ชัดเจน และมีพื้นที่ให้ได้ทดลองทำงานฝีมือเล็กๆน้อยๆด้วย และส่วนสุดท้ายในชั้น 1 ที่เปิดให้เป็นส่วนของนิทรรศการหมุนเวียน และ ร้านขายสินค้าต่างๆ ให้ผู้ประกอบการได้ลองวางขายสินค้า
กิตติรัตน์ เผยอีกว่า ทุกวันนี้เราไม่ได้มองกลุ่มผู้ใช้เป็นวัยรุ่นหรือไม่ แต่เรามองว่าทั้งหมดคือผู้ประกอบการ ที่ผ่านมามีนักเรียนนักศึกษาที่สร้างแบรนด์ได้ไม่น้อย ซึ่งหน้าที่ของเราคือการอำนวยความสะดวกให้ ส่วนใหญ่แล้วคนรุ่นใหม่ก็จะปรึกษาปัญหา 2 ข้อ คืออยากเริ่มทำธุรกิจ กับทำธุรกิจประสบปัญหาแล้วทำเช่นไร เราจึงจัดบรรยากาศให้เต็มไปด้วยแหล่งสร้างแรงบันดาลใจ เมื่อมีไอเดียแล้วจึงออกมาเป็นผลงานต่างๆ ที่เราเปิดพื้นที่ให้ทดลองขายในส่วนล่างเพื่อจะได้ทราบตลาดของตนเองได้ก่อนด้วย โดยจะจัดให้มีตลาดด้านหน้ากับร้านต่างๆในย่านเจริญกรุง
ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการจะต้องซื้อบัตรเข้าใช้สถานที่วันละ 100 บาท หรือ 1200 บาทต่อปี นักเรียนนักศึกษาปีละ 600 บาทต่อปี ใช้บริการหนังสือ ค้นข้อมูลออนไลน์ ไปจนถึงใช้บริการสื่อมัลติมีเดียต่างๆ ไปจนถึงโค เวิร์กกิ้งสเปซ ที่มีปลั๊กไฟบริการทุกจุด แต่หากใช้บริการอื่นๆ อาทิ ห้องเมเกอร์ สเปซ จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ซึ่งตอนนี้เปิดให้ทดลองใช้บริการฟรีตลอดเดือนพฤษภาคม
ที่ว้าว แห่งใหม่