ชาวบ้านค้านหนักเรือสำรวจน้ำโขงจีน-เสนอรัฐยกเลิกข้อตกลง4ชาติปรับปรุงร่องน้ำ

เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม ที่บริเวณจุดชมวิวผาพระ บ้านเมืองกาญจน์ ต.ริมโขง อ.เชียงของ จ.เชียงราย ติดแม่น้ำโขงชายแดนไทย-พม่า นายนิวัฒน์ ร้อยแก้ว ประธานกลุ่มรักษ์เชียงของได้นำมวลชนในเครือข่ายธรรมชาติและวัฒนธรรมลุ่มน้ำโขง-ล้านนา (กลุ่มรักษ์เชียงของ) ประมาณ 50 คน ทำกิจกรรมตามเกาะแก่งผาเยีย ผากันตุง คอนผีหลง และบริเวณบนฝั่งจุดชิมวิวเพื่อคัดค้านการสำรวจแม่น้ำโขงของเรือสำรวจจากประเทศจีนซึ่งยังคงปฏิบัติงานอยู่ในเขตแม่น้ำโขงระหว่าง อ.เชียงของ อ.เวียงแก่น และเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว

โดยกิจกรรมใช้ชื่อว่า “โขงร่มเย็น 93” ซึ่งจุดที่ 93 หมายถึงบริเวณคอนผีหลงดังกล่าวซึ่งคณะสำรวจของจีนกำหนดเอาไว้ โดยมีการพูดคุยเสวนากันนอกสถานที่เรื่องความสำคัญและจำเป็นต่อการปกป้องแม่น้ำโขงและการแสดงซึ่งบ่งบอกถึงความรุกของกลุ่มทุนที่จะทำลายธรรมชาติ การอ่านคำประกาศเชียงของ (โขงร่มเย็น) มีเนื้อหาว่าแม่น้ำโขงมีความยาว 4,909 กิโลเมตรผ่านหลายประเทศ ทำให้มีความอุดมสมบูรณ์ด้วยปริมาณน้ำเพื่ออุปโภคบริโภค มีพันธุ์ปลากว่า 850 ชนิด ดินตะกอนที่เหมาะกับการเกษตร และก่อให้เกิดวัฒนธรรมและความเชื่อมโยงของผู้คนใน 6 ประเทศคือจีน พม่า ไทย สปป.ลาว กัมพูชา และเวียดนาม

ประกาศเชียงของระบุอีกว่าช่วง 20 ปีที่ผ่านมาชาวลุ่มน้ำโขงได้รับผลกระทบจากการพัฒนาแม่น้ำโขงตอนบนด้วยการระเบิดเกาะแก่งกว่า 10 แห่ง มาตั้งแต่ปี 2543 เป็นต้นมา และยังมีการสร้างเขื่อนกว่า 6 แห่ง จนทำให้การขึ้นลงของน้ำที่ไม่เป็นตามฤดูกาล พันธุ์ปลาและปริมาณปลาลดลง เกิดการหายไปของ “ไก” ซึ่งเป็นสาหร่ายแม่น้ำโขงที่ชาวบ้านนำมาบริโภคโดยไม่มีกระบวนการช่วยเหลือจากรัฐจนถึงปลายปี 2559 รัฐบาลไทยมีมติเห็นชอบและได้มีการอนุญาตให้บริษัท CCCC Second Harbor Consultant ของจีนทำการสำรวจแม่นำโขงเขตติดประเทศไทยระยะทาง 96 กิโลเมตร จำนวน 15 จุด ตั้งแต่วันที่ 19 เม.ย.กำหนดระยะเวลา 55 วันขณะนี้ผ่านพ้นไปแล้ว 24 วันแล้ว

“การสำรวจที่มีการขุดเจาะสร้างความกังวลใจต่อชาวบ้านเป็นอย่างยิ่ง พวกเราเห็นว่า การสำรวจแม่น้ำโขงในครั้งนี้จะนำไปสู่การตัดสินใจของระดับรัฐบาลเพื่อจะเปิดทางให้มีการระเบิดเกาะแก่งและขุดลอกสันดอนทรายบนแม่น้ำโขงตลอดระยะทางกว่า 631 กิโลเมตรจากชายแดนจีน-พม่า ถึงเมืองหลวงพระบาง สปป.ลาว เพื่อเปิดทางให้เรือบรรทุกสินค้าขนาด 500 ตันล่องผ่านได้ตลอดทั้งปีนั้นจะเป็นการทำลายธรรมชาติอย่างรุนแรงที่สุด และจะเป็นการขับไล่คนท้องถิ่นที่พึ่งพาอาศัยอยู่กับแม่น้ำโขงทั้งเรื่องการประมง การใช้น้ำ มีประเพณีและวัฒนธรรมที่ยึดโยงกับแม่น้ำโขงออกไปจนหมดสิ้น แม่น้ำโขงจะกลายเป็นคลองและเป็นเส้นทางการคมนาคมของสินค้าจากจีนเป็นหลัก พวกเราจึงขอประกาศและขอเรียกร้องให้รัฐบาลควรทบทวนต่อโครงการดังกล่าว” ประกาศระบุ

Advertisement

นายนิวัฒน์และเครือข่ายยังได้แจ้งข้อเสนอในประกาศเชียงของต่อรัฐบาลว่า ควรจะมีการประเมินผลกระทบทางสังคมสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจจากการระเบิดเกาะแก่งระยะที่ 1 และควรจะมีการศึกษาเศรษฐศาสตร์ด้านมูลค่าและคุณค่าของนิเวศในเขตพรมแดนไทย-สปป.ลาว เพื่อเป็นฐานข้อมูลสำคัญในการตัดสินใจ รวมถึงควรศึกษาและพัฒนาเส้นทางเศรษฐกิจอื่นๆ เช่น ถนนอาร์สามเอไทย-สปป.ลาว-จีนตอนใต้ รีบเร่งพัฒนาการขนส่งทางรางและท่าเรือเชียงแสนให้สามารถขนส่งสินค้าได้เต็มศักยภาพมากกว่า รวมถึงเสนอให้รัฐบาลไทยได้ยกเลิกโครงการปรับปรุงร่องน้ำเพื่อการเดินพานิชย์ด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังกิจกรรมกลุ่มรักษ์เชียงของได้ติดป้ายคัดค้านการระเบิดเกาะแก่งเป็น 3 ภาษาคือไทย จีนและอังกฤษตามจุดต่างๆ รวมถึงบนเกาะผาเยียเช่นเคย ก่อนจะนำเรือเล็กพร้อมป้ายออกติดตามหารือขุดเจาะ “เจียฟู่ 3” ของจีนซึ่งเป็นเป้าหมายในการแสดงออกด้วยป้าย ซึ่งพบว่าวันนี้เรือมีกำหนดสำรวจบริเวณดอนผาฟ้า บานผากุบ ต.ริมโขง อ.เชียงของ ตรงกันข้ามบ้านน้ำยอน เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ส่วนเรือฉีตง 9 ที่สำรวจทางชลศาสตร์สำรวจอยู่บริเวณบ้านดอนที่ ต.ริมโขง บ้านผาฟ้าและจะไปทงบ้านห้วยเอียน ต.หล่ายงาว อ.เวียงแก่น ต่อไป ขณะที่เรือเซิ่นไท้ 198 ได้สำรวจทางชลศาสตร์บริเวณกว๊านอิง บ้านปากอิง ต.ศรีดอนชัย อ.เชียงของ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image