ผู้นำจีนร้องโลกปฏิเสธลัทธิกีดกันการค้า วงในเผยชาติยุโรปปัดรับแถลงการณ์ริเริ่มเส้นทางสายไหมใหม่

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน (เอเอฟพี)

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานในวันจันทร์(15 พ.ค.) อ้างการเปิดเผยของนักการทูตรายหนึ่งระบุว่า หลายชาติยุโรปปฏิเสธที่จะลงนามในแถลงการณ์ด้านการค้าที่จะมีออกมาในการประชุมสุดยอดว่าด้วย”ข้อริเริ่มเส้นทางสายไหมและเส้นทางสายไหมใหม่ทางทะเล” หรือ “ข้อริเริ่มเบลท์แอนด์โร้ด” ที่เป็นความริเริ่มผลักดันของจีน ในการประชุมที่จัดขึ้นที่ชานกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน โดยมีผู้นำจากเกือบ 30 ชาติเข้าร่วม ซึ่งกำลังจะปิดฉากลงในวันเดียวกันนี้ ซึ่งท่าทีดังกล่าวเป็นการขัดขวางความพยายามของจีนในการที่จะได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ในแผนความริเริ่มนี้ ที่เป็นความพยายามจะฟื้นฟูการเชื่อมโยงเส้นทางการค้าจากภูมิภาคเอเชีย ยุโรปและแอฟริกา ที่เคยมีมาในอดีตกลับขึ้นมาใหม่

นักการทูตคนดังกล่าวเปิดเผยว่า ฝรั่งเศส เยอรมนี เอสโตเนีย กรีซ โปรตุเกส และ อังกฤษ เป็นหนึ่งในสมาชิกสหภาพยุโรป(อียู) ที่ปฏิเสธจะลงนามในถ้อยแถลงการณ์ของที่ประชุมที่จะมีประเด็นครอบคลุมในหัวข้อต่างๆ ที่ยังจะขยายไปถึงด้านการเงินและความสัมพันธ์ระหว่างภาคประชาชน โดยให้เหตุผลในการปฏิเสธว่าถ้อยคำที่ระบุอยู่ในแถลงการณ์ยังไม่มีความครอบคลุมมากเพียงพอถึงสิ่งที่ยุโรปห่วงกังวลนั่นก็คือทั้งในเรื่องของความโปร่งใสและมาตรฐานด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม

นางบริจิตต์ ซีพรีส รัฐมนตรีเศรษฐกิจเยอรมนี กล่าวในคณะทำงานด้านการค้าเมื่อวันอาทิตย์(14 พ.ค.)ว่า เป็นสิ่งสำคัญสำหรับเราและภาคเอกชนของเราในการร้องขอให้โครงการภายใต้ข้อริเริ่มนี้จะต้องมีความโปร่งใสและไม่เป็นการเลือกปฏิบัติ และจะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานสากล

(เอเอฟพี)

ขณะที่การประชุมในวันนี้ ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน เรียกร้องให้ผู้นำโลกปฏิเสธแนวคิดกีดกันทางการค้า โดยชี้ว่าโลกาภิวัตน์กำลังเผชิญกับลมต้าน ทำให้จำเป็นต้องแสวงหาการก่อผลโดยผ่านความร่วมมือที่มากขึ้น หลีกเลี่ยงการทำให้แตกแยก ยับยั้งสิ่งกีดขวางที่จะนำไปสู่ความร่วมมือหรือความพยายามที่จะทำให้เกิดข้อตกลงที่มีความครอบคลุม และปฏิเสธแนวคิดกีดกันทางการค้า

Advertisement

การแสดงท่าทีปกป้องโลกาภิวัตน์ของผู้นำจีนยังถูกมองว่าเป็นการวางสถานะของตนเองในฐานะเจ้าแห่งโลกาภิวัตน์ ในขณะที่สหรัฐอเมริกาภายใต้การนำประธานาธิบดีนายโดนัลด์ ทรัมป์ กลับชูนโยบาย “อเมริกามาก่อน” ทั้งด้านการค้าและการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ขณะที่บางคนยังมองว่าแผนความริเริ่มนี้ของจีนเป็น”เกมแห่งอำนาจ” แต่นายสีย้ำว่าโครงการนี้เปิดกว้างสำหรับทุกคน โดยชี้ว่าไม่มีประเทศใดสามารถต่อสู้กับสิ่งท้าทายหรือแก้ปัญหาของโลกได้เพียงลำพัง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image