‘สกล’ ตัวแทนไทยถก ‘ดอร์น่า’ ที่อิตาลี ชิงสิทธิบิด ‘โมโตจีพี’ ลั่นใช้ความจริงใจเป็นทีเด็ด

นายสกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยความคืบหน้าการผลักดันให้ประเทศไทยรับหน้าเสื่อจัดการแข่งขันรถจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก หรือ “โมโตจีพี” ว่า หลังจาก กกท. ตัดสินใจมอบสิทธิ์ให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จำกัด เพื่อดำเนินการประสานงานเจรจากับ “ดอร์น่า สปอร์ต” ผู้ถือลิขสิทธิ์จัดแข่งขัน “โมโตจีพี” จากสหพันธ์รถจักรยานยนต์นานาชาติ (เอฟไอเอ็ม) เพื่อนำ “โมโตจีพี” มาจัดแข่งในเมืองไทย ล่าสุดได้ปรับแผนโดยยกเลิกการมอบสิทธิ์ให้กับบริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อินเตอร์ เนชั่นแนล เซอร์กิต จำกัด เนื่องจากมองว่าขั้นตอนการเจรจากับดอร์น่า สปอร์ต ควรเป็นหน้าที่ของการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ในฐานะตัวแทนจากรัฐบาลไทยจะทำให้ดูมีน้ำหนักมากขึ้น รวมถึงการเสนอตัวครั้งที่ผ่านมามีเพียง บริษัท บุรีรัมย์ฯ แห่งเดียวที่เสนอเข้ามาซึ่งในหลักการไม่ควรเป็นเช่นนั้น ซึ่งได้แจ้งไปยังนายเนวิน ชิดชอบ ในฐานะที่ปรึกษาบริษัท บุรีรัมย์ฯ แล้ว และนายเนวินก็เข้าใจและเห็นด้วย

นายสกลกล่าวต่อว่า ดอร์น่า เชิญให้ไทย และอีก 3 ชาติที่เสนอตัวคือ อินโดนีเซีย, คาซัคสถาน และฟินแลนด์ ไปพบและนำเสนอแผนงานการเป็นเจ้าภาพ ระหว่างการแข่งขันโมโตจีพี ที่เมืองมิลาน ประเทศอิตาลี ระหว่างวันที่ 2-6 มิถุนายนนี้ โดยตนจะเดินทางไปพร้อมกับ พ.ท.รุจ แสงอุดม รองผู้ว่าการ กกท. และจะเชิญผู้แทนสำนักงบประมาณไปด้วย

“ดอร์น่าจะตัดสินใจสะเด็ดน้ำว่าจะมอบสิทธิ์จัดโมโตจีพีให้ประเทศใดบ้าง 2 รายการจาก 4 ที่ประเทศที่เสนอตัว คราวนี้จะสะเด็ดน้ำแน่นอน เราจะได้รู้ว่าไทยจะได้เป็นเจ้าภาพหรือไม่ เพราะแค่หนังสือที่ส่งมาไทยว่าดอร์น่าอยากมอบสิทธิ์ให้ไทยผมเข้าใจว่าดอร์น่าส่งหนังสือลักษณะเดียวกันไปถึงทั้งสี่ชาติ” บิ๊กเสือกล่าว

ผู้ว่าการ กกท.กล่าวในตอนท้ายว่า ตนในนามตัวแทนรัฐบาลไทยจะเจรจากับดอร์น่าอย่างสุดความสามารถ เราไม่ได้เตรียมทีเด็ดอะไรไปนำเสนอเพื่อเอาชนะใจดอร์น่า มีแค่ความจริงใจ และความตั้งใจเป็นเจ้าภาพของไทยเพราะคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติในหลักการแล้ว จากการประเมินเวลานี้มีความมั่นใจประมาณ 80 เปอร์เซนต์ว่าไทยจะได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในสนามจัดแข่งขันโมโตจีพี ในปี 2561

Advertisement

“ถ้าดอร์น่าเลือกไทย ผมก็จะเอาร่างสัญญากลับมาศึกษาอย่างละเอียด ก่อนจะมีการลงนามร่วมกันอย่างเป็นทางการต่อไป แล้วค่อยมาทำร่างทีโออาร์กันใหม่เพื่อเปิดหาผู้ประกอบการรับจัดแข่งขันกันใหม่อีกรอบ ซึ่งคุณสมบัติคร่าวๆ คือ ต้องมีประสบการณ์จัดแข่งขันรถจักรยานยนต์ มีการวางระบบสิทธิประโยชน์ที่ชัดเจน รูปแบบการจัดต้องเน้นเอ็นเตอร์เทน แสง สี เสียง ต้องครบครัน” ผู้ว่าการ กกท.กล่าวทิ้งท้าย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image