‘หมอธี’สั่งโละสัญญา’ออมสิน’หักเงินแทนครูเบี้ยวหนี้ ทำเอ็มโอยูใหม่ เร่งทวงคืนหมื่นล้าน

เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม นายพิษณุ ตุลสุข รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ตนพร้อมด้วยนายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน ได้หารือกรณีที่ สกสค.เจรจาให้ธนาคารออมสินคืนเงินจำนวน 9,600 ล้านบาท ที่หักจากเงินกองทุนเงินสนับสนุนพิเศษและส่งเสริมความมั่นคง ตามโครงการสวัสดิการเงินกู้ ฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) ชำระหนี้แทนผู้กู้ที่ค้างชำระเกิน 3 งวดขึ้นไป คืนให้กับ สกสค. เนื่องจากทางฝ่ายกฎหมายของ สกสค. ได้ตรวจสอบบันทึกข้อตกลงหรือเอ็มโอยูที่อดีตเลขาธิการ สกสค.ทำไว้กับธนาคารออมสิน กรณีให้ธนาคารออมสินหักเงินจากกองทุนสนับสนุนพิเศษฯ เพื่อชำระหนี้แทนผู้ที่ค้างชำระเกิน 3 งวดขึ้นไปได้นั้น เป็นสัญญาฝ่ายเดียว ถือเป็นการทำนิติกรรมที่ไม่ถูกต้อง โดยมี นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เป็นคนกลางในการพูดคุย ทั้งนี้จากการหารือทั้งสองฝ่ายต่างเห็นว่าเงินดังกล่าวเป็นสิทธิของตนเองและยืนยันว่าทำถูกต้อง ดังนั้น นพ.ธีระเกียรติในฐานะคนกลางเห็นว่าทั้ง สกสค.และธนาคารออมสินต่างเป็นหน่วยงานของรัฐ หากเกิดปัญหาฟ้องร้องก็ไม่เกิดประโยชน์ จะทำให้ปัญหายืดเยื้อ จึง เสนอให้ สกสค.ไปหารือกับธนาคารออมสิน เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาดังกล่าวร่วมกัน รวมถึงมีมติให้ยกเลิกเอ็มโอยูเดิม ที่ธนาคารออมสินทำไว้กับอดีตเลขาธิการ สกสค. และให้ทำเอ็มโอยูฉบับใหม่ กับเลขาธิการ สกสค.คนปัจจุบัน

“สำหรับร่างสัญญาเอ็มโอยูฉบับใหม่ หลักการสำคัญคือ สกสค.และธนาคารออมสินต้องมาช่วยกันติดตามทวงหนี้ ผมขอย้ำว่าครูเป็นหนี้ก็ต้องชำระหนี้ ไม่ใช่ทำกันจนเป็นแฟชั่นว่าไม่ต้องใช้หนี้ มีกองทุนเงินสนับสนุนฯ จ่ายให้ ขอให้สำนึกได้ว่า กรรมใดใครก่อ ก็ต้องรับผิดชอบ การที่ครูที่ไม่ใช้หนี้ก็ส่งผลต่อชื่อเสียง จรรยาบรรณและยังเป็นการเอาเปรียบครูดีที่มีวินัยในการชำระหนี้อีกหลายหมื่นคน โดยขณะนี้ยอดหนี้ในระบบที่สมาชิก ช.พ.ค.กับธนาคารออมสินเพิ่มขึ้นถึง 3 แสนล้านบาท เนื่องจากที่ผ่านมาทาง ช.พ.ค.เพิ่มวงเงินกู้ได้สูงถึง 3 ล้านบาท ทำให้ครูมากู้จนเกินกำลัง จนเกิดเป็นปัญหา ส่วนเงินที่ธนาคารออมสินหักไปจากกองทุนเงินสนับสนุนฯ เพื่อชำระหนี้แทนครูที่ค้างชำระ 3 งวดขึ้นนั้นยอดปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 10,000 กว่าล้านบาท เบื้องต้นธนาคารออมสินไม่ปฏิเสธว่าจะไม่จ่าย แต่อาจจะเป็นการจ่ายแบบมีเงื่อนไข เช่น ผ่อนจ่ายเป็นงวด เป็นต้น ซึ่งต้องระบุในเอ็มโอยูฉบับใหม่ให้ชัดเจน” นายพิษณุกล่าว และว่า ทั้งนี้ สกสค.และออมสินจะต้องเร่งทำเอ็มโอยูและประกาศใช้ให้ทันภายในเดือนมิถุนายนนี้

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image