ฟอร์ดเฟ้นสุดยอดนักดมกลิ่น ทดสอบรถใหม่ก่อนส่งลูกค้า

ปัจจุบันนักออกแบบรถยนต์เริ่มมีการแข่งขันกันมากขึ้น ในเรื่องการนำเสนอกลิ่นที่สมบูรณ์แบบที่สุดของรถยนต์ให้กับตลาดต่างๆ สำหรับฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี กลิ่นคือสิ่งสำคัญในการส่งมอบรถยนต์คุณภาพสูงให้แก่ลูกค้าของเรา

แอนดี้ แพน วิศวกรผู้ดูแลห้องทดสอบกลิ่นของฟอร์ด เอเชีย แปซิฟิค กล่าวว่า นับตั้งแต่ปี 2551 ฟอร์ดได้ขยายห้องทดสอบกลิ่นประจำภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิค ที่นานจิง ประเทศจีน อย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันเรามีทีมสุดยอดนักดมกลิ่นถึง 18 คน ที่ร่วมทำการทดสอบกลิ่นกว่า 300 กลิ่นต่อปี จากวัสดุ และส่วนประกอบต่างๆ ภายในรถยนต์ ที่จำหน่ายในเอเชีย แปซิฟิค

แอนดี้ แพน

ทุกๆ ปี ฟอร์ดจะทำการคัดเลือกทีมสุดยอดนักดมกลิ่นในประเทศจีน โดยเปิดรับพนักงานที่สนใจจากทุกฝ่ายในบริษัท เพื่อเข้าทดสอบกลิ่นจากตัวอย่างวัสดุในขวดโหล 16 ขวด สุดยอดนักดมกลิ่นจะได้รับการคัดเลือกจากความสามารถและความคงเส้นคงวาในการดมกลิ่น และยังต้องมีคุณสมบัติอื่นๆ ครบถ้วนอีกด้วย

“คุณต้องไม่สูบบุหรี่ เป็นภูมิแพ้ หรือมีปัญหาด้านโพรงจมูก คุณไม่สามารถใส่น้ำหอม เสื้อหนัง หรือทาเล็บได้ นอกจากนี้ คุณยังไม่ควรใช้ยาสระผมที่มีกลิ่นแรง เพื่อให้แน่ใจว่าประสาทรับกลิ่นของคุณจะคงที่และไม่ถูกบิดเบือน” ไมค์ เฟิง นักทดสอบกลิ่นที่ทำงา นกับฟอร์ดมานาน 4 ปี กล่าว

Advertisement

นักดมกลิ่นของฟอร์ดจะต้องผ่านการทดสอบคุณสมบัติใหม่ทุกปี เพื่อรักษาตำแหน่งไว้และยังต้องเข้าทดสอบกลิ่นเป็นระยะตลอดทั้งปีอีกด้วย นักทดสอบกลิ่นจะถูกแบ่งเป็นกลุ่มเล็กๆ กลุ่มละ 6 คน เพื่อทดสอบตัวอย่างวัสดุแต่ละชนิด โดยผลการทดสอบจะขึ้นอยู่กับคะแนนเฉลี่ยจากนักทดสอบในกลุ่ม

“ผมมักจะได้กลิ่นก่อนคนอื่นเสมอ เพื่อนร่วมงานบอกว่าผมสามารถได้กลิ่นอาหารกลางวันจากโรงอาหารก่อนคนอื่นๆ เสียอีก” เฟิงกล่าวเพิ่มเติม

Advertisement

มนุษย์แต่ละคนรับกลิ่นได้ไม่เหมือนกัน และนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า สิ่งนี้เป็นผลมาจากพันธุกรรม ดังนั้น ฟอร์ดจึงมีห้องทดสอบกลิ่นทั้งในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และเอเชีย แปซิฟิค เพื่อให้แน่ใจว่ารถฟอร์ดจะตรงใจลูกค้าทั่วโลก ในขณะที่กลิ่นรถใหม่ที่เราคุ้นเคยนั้นเป็นที่นิยมในตลาดหลายแห่ง เช่น ออสเตรเลีย แต่ในประเทศจีน ผู้บริโภคกลับชื่นชอบกลิ่นอโรมาที่ละเอียดอ่อนกว่านั้น จากผลการศึกษาเรื่องคุณภาพเบื้องต้นในประเทศจีนประจำปี 2559 ของเจดี พาวเวอร์ เกี่ยวกับปัญหาที่ได้รับการรายงานบ่อยที่สุด พบว่าคำร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับกลิ่นนั้นติดอันดับแรกติดต่อกันเป็นปีที่ 2 แล้ว

“หนังเป็นวัสดุค่อนข้างท้าทาย เนื่องจากลูกค้าในแต่ละตลาดจะมีปฏิกิริยาตอบสนองแตกต่างกันมาก ลูกค้าชาวจีนอาจจะไม่ชอบกลิ่นหนังใหม่ เราจึงต้องระมัดระวังในการเลือกวัสดุที่จะสร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้าทั่วโลก” แพนกล่าว

วัสดุทุกชนิดที่ใช้ในรถของฟอร์ดจะต้องผ่านการทดสอบเรื่องกลิ่น ไม่ว่าจะเป็นผ้าบุเบาะที่นั่ง พลาสติก หรือพรม โดยเกณฑ์การทดสอบของฟอร์ดนั้น วัสดุควรมีกลิ่นที่รับรู้ได้ แต่ไม่รบกวนประสาทสัมผัส และหากวัสดุใดมีกลิ่นแรงเกินไป ฟอร์ดจะทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์เพื่อแก้ไขปัญหาหรือมองหาวัสดุอื่นๆ มาใช้ทดแทน

ฟอร์ดจะทดสอบตัวอย่างวัสดุโดยใช้อุปกรณ์ง่ายๆ ที่มีอยู่ทั่วๆ ไป ได้แก่ ขวดโหลแก้ว และตู้อบ เพื่อทดสอบว่ารถจะมีกลิ่น

เช่นไรเมื่อผลิตเป็นจำนวนมาก โดยนำขวดโหลแก้วเมสันขนาด 3 ลิตร ใช้เก็บพาสต้าหรือถั่ว มาใช้เป็นอุปกรณ์ในการจำลองสภาพแวดล้อมเสมือนจริง

ตัวอย่างวัสดุจะถูกย่อจากขนาดจริงที่ใช้ในรถยนต์และนำไปใส่ในขวดโหล ก่อนจะถูกนำไปเข้าตู้อบในอุณหภูมิ 3 ระดับ ได้แก่ 80, 40 และ 23 องศาเซลเซียส และผู้ทดสอบจะใส่น้ำลงไปในขวดโหลที่ใช้ในอุณหภูมิ 40 และ 23 องศา เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่มีความชื้น

“วัสดุที่ใช้ในรถของเราจะต้องมีกลิ่นเหมือนเดิมในทุกสภาวะ แม้ว่าจะเป็นวันที่ร้อนมากก็ตาม การทดสอบในขั้นตอนการพัฒนาจะช่วยให้เรานำสิ่งที่จะสร้างกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ออกไปจากตัวรถ เพื่อให้แน่ใจว่ารถที่ออกจากสายการผลิตจะมีกลิ่นที่สมบูรณ์แบบสำหรับลูกค้าของเรา” แพนอธิบาย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image