นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวบรรยายพิเศษ เรื่อง “อนาคตเศรษฐกิจไทย 4.0 ไขรหัสโมเดลใหม่นำเศรษฐกิจไทยสู่ระดับสากล” ในงาน TrueBusiness Forum 2017 ที่ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ศูนย์การค้าสยามพารากอน ว่า ส่วนตัวอยากขอบคุณ นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน) ที่ได้ช่วยเหลือและร่วมมือกับรัฐบาลไทยมาโดยตลอด และในครั้งนี้ประชารัฐเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ(จีดีพี) ให้อยู่ที่ 3.3 ซึ่งเป็นตัวเลขที่ดีของประเทศไทย ที่แสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และการฟื้นตัวของภาคการส่งออก หลังจากที่ทรุดตัวมากในปีที่ผ่านมา โดยการส่งออกเติบโตกว่า 6% ส่วนการลงทุนของภาครัฐบาลที่ผ่านพบว่ามีการเร่งรัดการใช้จ่ายที่รวดเร็ว จะเหลือก็แต่การลงทุนของภาคเอกชนของไทยไม่ขยับเท่านั้น
“ฉะนั้นมองไปในปีนี้ตัวเลขที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สภาพัฒน์) ที่ตั้งไว้ 3.3-3.8 ก็ไม่น่าจะมีปัญหา ถ้าเรารักษาระดับของการท่องเที่ยว การเบิกจ่ายภาครัฐงบประมาณในปี 2560 ให้ได้กำหนดตามเป้าหมายผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้ จะทำให้เราสามารถทะลุตัว เลขจีดีพีที่สภาพัฒน์ คาดไว้ได้” นายสมคิด กล่าว
นายสมคิด กล่าวว่า ขณะเดียวกันภาคเศรษฐกิจรากหญ้า เมื่อ 3-4 ปีที่ผ่ามา พบว่า ราคาสินค้าเกษตรไม่ดี ฉะนั้นในปีนี้รัฐบาลจะตั้งใจพยายามดูแลประชากรในกลุ่มนี้ให้ดีขึ้น ในกลุ่มผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม(เอสเอ็มอี) กระทรวงอุตสาหกรรมตั้งเป้าไว้ในการสนับสนุน ภาคคนจนกระทรวงคลังได้เข้าไปสนับสนุนในทุกส่วน โดยในอนาคตข้างหน้า มีอยู่ 2 ประเด็นคือ 1.เรื่องนวัตกรรม 2.เทคโนโลยี จะต้องเอา 2 ส่วนนี้มาปรับใช้ร่วมกัน
นายสมคิด กล่าวว่า นอกจากนี้ กลุ่มทรู ทำให้ฝันของตนเป็นจริง เนื่องจากเมื่อไม่นานมานี้มีโอกาสได้ไปประเทศฟินแลนด์มีพบว่าประเทศเขามีความคิดสร้างสรรค์ แต่เมื่อมองกลับมาในประเทศไทย กลับพบว่ายังไม่มีความคิดสร้างสรรค์เท่าที่ควร จึงจำเป็นจะต้องสร้างเด็กให้มีความคิดสร้างสรรค์ เกิดความคิดสร้างสรรค์ในอนาคตผ่าน ฟินเทค เพื่อให้เข้าถึงธุรกิจสตาร์ทอัพ และ เอสเอ็มอี จากการสร้างด้วยระบบดาต้าออนไลน์จะสามารถรู้ว่า พฤติกรรม การใช้จ่ายเป็นอย่างไร เค้าก็จะกล้าที่จะออกสินเชื่อให้ ซึ่งระบบการเงินในสมัยใหม่จะอยากให้เงินกับคนที่ไม่มีโอกาส ซึ่งในอนาคตการลงทุนจะเป็นเรื่องของเทคโนโลยีและนวัตกรรม เชื่อว่าจะเกิดขึ้นในไม่ช้าเนื่องจากเอกชนจะเป็นตัวผลักดันให้เกิดการลงทุน
อย่างไรก็ตาม โครงการเน็ตประชารัฐจะต้องมีและเปิดให้ใช้บริการทั่วทุกพื้นที่อย่างช้าที่สุดไม่เกินปีนี้ รวมไปถึง วงจรเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศ(อินเตอร์เน็ตเกตเวย์) จะต้องทำให้ได้ภายในปีนี้ ทั้งนี้หากข้าราชการกระทรวง ไม่ทำงานก็จะต้องให้ปลด ดังนั้นสิ่งทั้งหมดจำเป็นที่จะต้องขอความร่วมมือจากประชารัฐภาคเอกชน
