จากกรณีเหตุต้นจามจุรีขนาดใหญ่ประมาณ 3 คนโอบ เกิดโค่นล้มภายในซอยสุขุมวิท 53 ช่วงท้ายซอยทองหล่อ 9 เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทำให้เกิดการกีดขวางจราจรเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมง ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้เกิดเหตุเช่นเดียวกัน คือเกิดต้นไม้โค่นล้มและพาดสายไฟที่บริเวณแยกชิดลม ทำให้เสาไฟฟ้าล้มทับประชาชน มีประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต รวมถึงทรัพย์สินเสียหาย
นายจักกพันธุ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า ตนได้รับรายงานว่าเกิดเหตุต้นไม้โค่นล้มภายหลังฝนเกิดตกตลอดทั้งคืน โดยขณะนี้ทางกทม.ได้กำชับให้แต่ละสำนักเขตเร่งดำเนินการตามขั้นตอนการดูแลบำรุงรักษาต้นไม้ใหญ่ 6 ขั้นตอน ได้แก่ 1.การใส่ปุ๋ยบำรุงดินเพื่อให้ต้นไม้สมบูรณ์แข็งแรง 2. การป้องกันกำจัดศัตรูพืช ทั้งแมลงศัตรูพืช โรคพืช เช่น กระรอกที่ชอบกัดลำต้น กาฝากที่มีรากมาดูดแย่งอาหารทำให้ต้นไม้ทรุดโทรม เป็นการป้องกันไม่ให้ต้นไม้เกิดบาดแผล 3. การตัดแต่งทรงพุ่มไม้ตามระยะเวลาที่เหมาะสม ตามประเภทของต้นไม้ให้มีความสมดุลระหว่างทรงพุ่มและระบบราก 4.การพยุงค้ำยันต้นไม้ 5.การศัลยกรรมต้นไม้ และ 6.การล้อมย้าย โดยเฉพาะในขั้นตอนที่ 4 คือ หากสำนักงานเขตตรวจสอบแล้วเห็นว่าต้นไม้ไม่สามารถทรงตัวอยู่ได้ด้วยตัวเองได้ จะต้องนำไม้มาค้ำยัน ซึ่งการค้ำยันจะต้องดูตามขนาดต้นไม้ด้วย และขั้นตอนที่ 6 หากเห็นว่าการพยุงค้ำยันต้นไม้ไม่สามารถรองรับน้ำหนักของต้นไม้ได้ ให้สำนักงานเขตเร่งล้อมย้ายต้นไม้ทันทีเพื่อนำไปอนุบาลตามสวนสาธารณะต่างๆ ซึ่งการล้อมจะต้องล้อมจะต้องเริ่มจากต้นไม้ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดใหญ่ก่อน
“ปัจจุบันไม้ยืนต้นในพื้นที่สาธารณะที่อยู่ในความดูแลของกทม.มีทั้งสิ้น 3,116,660 ต้น ส่วนใหญ่เป็นต้นไม้รากจะลงไปไม่ลึก เนื่องจากการปลูกต้นไม้มักจะปลูกภายหลังที่มีการก่อสร้างถนน ทำให้ต้นไม้ที่ปลูกซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะไม่มีรากแก้ว รากแขนงหรือรากของต้นไม้ โอกาสที่ต้นไม้โค่นล้มจึงมีสูงมาก แต่หากถามว่าทางกทม.จะต้องไปตัดต้นไม้เหล่านั้นทิ้งหมดหรือไม่ คงไม่ใช่ เพราะกลับกันได้ส่งเสริมให้ประชาชนร่วมกันปลูกต้นไม้เพื่อลดมลภาวะในเมืองกรุง ซึ่งก็จะต้องส่งเสริมควบคู่กับเรื่องของความปลอดภัยด้วย ในส่วนของประชาชนหากผู้ใดพบเห็นต้นไม้เสี่ยงโค่นล้มสามารถแจ้งมาทางสำนักเขตหรือสายด่วน 1555 ได้ทันที” นายจักกพันธุ์กล่าว
