ศาลเเพ่งชี้มีอำนาจพิจารณาคดีผู้พิการฟ้องกทม.ชดใช้ 1.4 ล้าน/คน ไม่สร้างลิฟต์บีทีเอส

เมื่อเวลา 09.00น.วันที่ 18 พฤษภาคม ที่ศาลแพ่ง ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำสั่งการวินิจฉัยเขตอำนาจศาล และการขอฟ้องคดีแบบกลุ่มตัวแทนของผู้พิการวีลแชร์ ในคดีหมายเลขดำ พ.246/2560
ที่นายสุพรธรรม มงคลสวัสดิ์ อายุ 50 ปี ผู้พิการนั่งรถวีลแชร์ที่เป็นครูและเลขานุการโรงเรียนวัดมหาไถ่ เป็นผู้แทนกลุ่มคนพิการภาคีเครือข่ายขนส่งมวลชนทุกคนต้องขึ้นได้รวม 98 คน เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องกรุงเทพมหานคร เป็นจำเลย เรื่องละเมิด เรียกค่าเสียหาย 1,440,000 บาท ต่อคน ค่าเสียหายคำนวณจากการมีค่าใช้จ่ายในการเดินทาง การไม่ได้รับความสะดวกต่างๆ ที่คำนวณเป็นเงินวันละ 1,000 บาท นับตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม 2559 ที่ครบกำหนดต้องดำเนินการตามคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่สั่งให้ กรุงเทพมหานครจัดสร้างลิฟต์โดยสาร อำนวยความสะดวกแก่ผู้พิการ ในสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ( BTS) ให้ครบทั้ง 23 สถานี ซึ่งนายสุพรธรรม ได้ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่ง เมื่อวันที่ 20 มกราคม60 ที่ผ่านมา

โดย เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา กทม.ฝ่ายจำเลย ได้โต้แย้งเรื่องเขตอำนาจศาลว่า คดีควรฟ้องและพิจารณาในศาลปกครอง ขณะที่ฝ่ายผู้พิการโจทก์ ได้ร้องขอต่อศาลแพ่ง ขอยื่นฟ้องคดีแบบกลุ่มตัวแทน ซึ่งศาลแพ่งได้นัดฟังคำสั่งทั้ง 2 ประเด็นในวันนี้

ต่อมาเวลา 10.00 น.เศษ ภายหลังฟังคำสั่ง นายสนธิพงศ์ มงคลสวัสดิ์ ทนายความกลุ่มคนพิการวีลแชร์ เปิดเผยว่า ศาลแพ่ง ได้วินิจฉัยว่ากรณีที่ผู้พิการ ยื่นฟ้อง กทม.ให้ชดใช้ความเสียหายจากการละเลยสร้างลิฟท์ให้ผู้พิการ ครบ 23 สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสนั้นเป็นการฟ้องตามข้อกฎหมายคุ้มครองผู้พิการ ไม่ใช่การฟ้องลักษณะเสียหายทางปกครอง ดังนั้นเบื้องต้นศาลแพ่งจึงเห็นว่าคดีนี้อยู่ในเขตอำนาจของศาลแพ่งซึ่งเป็นศาลยุติธรรมจะพิจารณาเพื่อมีคำพิพากษาได้

นายสนธิพงศ์ กล่าวอีกว่า หลังจากนี้ศาลแพ่ง จะส่งความเห็นเขตอำนาจศาลดังกล่าว ไปให้ศาลปกครองตรวจดูว่าจะโต้แย้งเขตอำนาจศาลหรือไม่ หากศาลปกครองมีความเห็นเป็นอย่างอื่นแตกต่างไปจากนี้ ก็ต้องส่งเรื่องให้คณะกรรมการชี้ขาดเขตอำนาจระหว่างศาลวินิจฉัยชี้ขาด

Advertisement

ทั้งนี้ ศาลแพ่ง จึงนัดคู่ความ 2 ฝ่ายฟังคำสั่งเรื่องความเห็นเขตอำนาจศาล และประเด็นที่ผู้พิการขอฟ้องคดีแบบกลุ่มตัวแทน พร้อมกันอีกครั้งในวันที่ 7 สิงหาคมนี้ เวลา 09.00 น.

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image