การเคหะฯให้ 2 สินเชื่อใหม่ ช่วยคนที่เข้าไม่ถึงสินเชื่อสถาบันการเงิน

การเคหะแห่งชาติงัด 2 สินเชื่อใหม่ ช่วยเหลือคนที่เข้าไม่ถึงสินเชื่อสถาบันการเงิน ทั้งโครงการเช่าก่อนซื้อเมื่อพร้อม และโครงการเช่าซื้อ อัตราดอกเบี้ยถูก 1.49% ช่วง 2 ปีแรก ในขณะ ครม. อนุมัติโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัย ชุดที่ 1 อีก 21 โครงการ 6,129 หน่วย

ดร.ธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ เปิดเผยว่า การเคหะแห่งชาติได้หาแนวทางช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่ยังไม่มีที่อยู่อาศัยและไม่สามารถเข้าถึงสินเชื่อของสถาบันการเงินต่างๆ ด้วยการจัดสินเชื่อ 2 ประเภท เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเหล่านี้ให้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง

ประเภทแรก เช่าเพื่อซื้อ (Rent to Buy) หรือเช่าก่อนซื้อเมื่อพร้อม สำหรับผู้มีรายได้น้อยที่ยังไม่พร้อมที่จะซื้อที่อยู่อาศัยในทันที โดยปรับเปลี่ยนรูปแบบจากการซื้อเป็นการเช่าไปก่อนในระยะ 3 ปีแรก หากลูกค้ามีความสามารถที่จะซื้อก็จะโอนเงินค่าเช่าบางส่วนไปเป็นเงินดาวน์ เว้นแต่ไม่ต้องการซื้อก็สามารถเช่าต่อไป หลังครบ 3 ปีแรก แล้วต่อสัญญาเช่าได้อีก 3 ปี

โครงการนำร่องเช่าเพื่อซื้อ ได้แก่ บ้านเอื้ออาทรชลบุรี (ศรีราชา), บ้านเอื้ออาทรปราจีนบุรี (นาดี), บ้านเอื้ออาทรปทุมธานี (บางคูวัด/สี่แยกปทุมวิไล ), บ้านเอื้ออาทรนครปฐม (บ่อพลับ/ศาลายา), บ้านเอื้ออาทรสระบุรี (แก่งคอย) เป็นต้น โดยมีราคาขายหน่วยละ 4 แสนกว่าบาท อัตราค่าเช่าเดือนละประมาณ 2,400 – 2,700 บาท

Advertisement

ประเภทที่สอง เช่าซื้อกับการเคหะแห่งชาติในอัตราดอกเบี้ยถูก 1.49% นาน 2 ปี โดยทำสัญญาเช่าซื้อกับการเคหะแห่งชาติ โดยราคาขายที่อยู่อาศัยหน่วยละ 200,000 – 600,000 บาท ผ่อนส่งช่วง 2 ปีแรกเดือนละ 1,100 – 3,300 บาท และปีที่ 3 – 5 เป็นอัตราดอกเบี้ย ณ ขณะนั้น

โครงการนำร่อง ได้แก่ เคหะชุมชนร่มเกล้า, เคหะชุมชนออเงิน, เคหะชุมชนนครปฐม, บ้านเอื้ออาทรชลบุรี (ศรีราชา), บ้านเอื้ออาทรปราจีนบุรี (นาดี), บ้านเอื้ออาทรปทุมธานี (บางคูวัด/สี่แยกปทุมวิไล), บ้านเอื้ออาทรสมุทรปราการ (บางกระเจ้า) และโครงการเคหะชุมชนและบริการชุมชนหนองคาย (แยกเวียงจันทน์) เป็นต้น

“เป็นการเข้าไปช่วยเหลือเบื้องต้นให้คนที่อยากมีบ้านในช่วงที่ยังไม่พร้อมเต็มที่ และเข้าไม่ถึงสินเชื่อจากสถาบันการเงิน  การเคหะฯ จะช่วยให้เขามีที่อยู่อาศัย โดยเราเข้าไปช่วยแบ่งเบาภาระตรงนี้เอง  พอเขามีกำลังซื้อมากขึ้น ก็ค่อยไปขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินก็ได้” ดร.ธัชพล กล่าว

ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติยังกล่าวด้วยว่า  คณะรัฐมนตรีอนุมัติโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุดที่ 1 ปี 2559  เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา จำนวน 21 โครงการ รวมทั้งสิ้น 6,129 หน่วย วงเงิน 4,322 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นเงินกู้ที่มีกระทรวงการคลังค้ำประกัน ที่เหลือเป็นเงินอุดหนุนจากรัฐบาลและเงินของการเคหะแห่งชาติเอง ทั้งนี้จะเริ่มดำเนินการในปี 2560  ที่ผ่านมา คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยชุดที่ 1 ปี 2557 – 2558 รวม 79 โครงการ จำนวน 27,161 หน่วย

สำหรับการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการสำรวจความต้องการที่อยู่อาศัยผ่านแอพพลิเคชั่น “คนไทยมีบ้าน: Home for All” กับธนาคารอาคารสงเคราะห์นั้น ดร.ธัชพล กล่าวว่า เป็นโครงการที่ดี เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่อาศัย โดยเฉพาะการเคหะแห่งชาติเองสามารถนำข้อมูลเหล่านั้นไปวางแผนการพัฒนาที่อยู่อาศัยตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ ทั้งประเภทของที่อยู่อาศัย ขนาด รูปแบบ และทำเลที่ตั้ง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image