“ศรีวราห์” ไม่ติดใจ ผู้ว่าฯแม่ฮ่องสอนแล้ว ให้น้ำหนักเอกสารมากกว่าคน ชี้ใบเบิกงบฯมัด อบต.บ้านใหม่

เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวกับกรณีการค้ามนุษย์ ที่ซื้อบริการจากหญิงสาวในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน ว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบพยานหลักฐานอยู่ หากพบว่าใครเกี่ยวข้องก็จะขอให้ศาลพิจารณาออกหมายจับ ขณะนี้มีพยานเอกสารยืนยันแล้ว ว่าใครบ้างที่เป็นผู้เข้าพักในห้องที่เกิดเหตุ และเปรียบเทียบใบหน้าเป็นข้าราชการ หรือประชาชน พร้อมยืนยันว่าหากเจ้าหน้าที่สามารถรวบรวมหลักฐานได้ครบถ้วนชัดเจนจะดำเนินการขออนุมัติหมายจับทันที ทั้งนี้คาดว่าอาจมีผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดอีก แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นใครหรือเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่หรือไม่ แต่ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจรายอื่น ๆ และนายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการแม่ฮ่องสอนนั้น ขณะนี้ไม่มีประเด็นที่เจ้าหน้าที่ติดใจแล้ว ส่วนจะมีความผิดในฐานปล่อยประละเลยหรือไม่เป็นหน้าที่ของฝ่ายปกครองว่าจะมีการความเห็นว่าอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่าก่อนหน้านี้ผู้เสียหายชี้ตัวผู้กระทำผิดไปแล้ว เจ้าหน้าที่ยังต้องตรวจสอบให้ชัดเจนอีกหรือไม่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า การชี้ตัวก็เป็นหลักฐานส่วนหนึ่ง แต่ตามกฎหมายแล้วพยานเอกสารเป็นพยานชั้น 1 ส่วนพยานบุคคลเป็นพยานชั้น 3 ส่วนกรณีที่มีข่าวก่อนหน้านี้ว่าพนักงานสอบสวนมีการกดดันให้ผู้เสียหายชี้ตัวผู้ต้องหาที่ไม่เกี่ยวข้องกับพยานหลักฐานนั้น ก็เป็นเพียงข่าวเท่านั้น ตำรวจรวบรวมพยานหลักฐานตามหน้าที่ อย่างไรก็ตามแม้จะชี้ตัวว่าเป็นบุคคลใดเจ้าหน้าที่ก็จะต้องนำมาชั่งน้ำหนักพยานเอกสารอีกครั้งว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร พร้อมยืนยันว่าหากตนเข้ามาตรวจสอบคดีแล้วเป็นธรรมแน่นอน ทุกอย่างต้องพิจารณาตามหลักฐาน ย้ำว่าตำรวจทำตามพยานหลักฐาน ไม่ได้กลั่นแกล้งหรือกล่าวหาและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย หากผิดก็ต้องถูกดำเนินคดีไปตามพยานหลักฐาน ส่วนกรณีผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนและตำรวจขณะนี้ยังไม่พบพยานหลักฐานใหม่ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด

เมื่อถามว่ากลุ่มข้าราชการ อบต. บ้านใหม่ จังหวัดนนทบุรี ที่เป็นผู้ต้องสงสัยล่าสุดมีความเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดชัดเจนหรือไม่ รอง ผบ.ตร. กล่าวว่า มีพยานเอกสารยืนยันชัดเจนกว่ากลุ่มดังกล่าวเข้าพักในสถานที่และวันเวลาเดียวกับที่เกิดเหตุ ซึ่งมีเอกสารในการขอเบิกงบฯชัดเจน เมื่อรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดเสร็จแล้วและไม่มีจุดที่ขัดแย้งกัน ก็จะดำเนินการขออนุมัติหมายจับต่อไป ส่วนจะมีการเรียกมาสวบสวนหรือไม่ต้องสอบถามไปยัง ตำรวจภูธรภาค 5 และเชื่อว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่น่าจะเร่งสอบสวนพยานทั้งหมดที่มีมากกว่า 40 รายให้เสร็จสิ้นในเร็ว ๆ นี้

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image