วิศวกรอุตสาหกรรม ตรวจสอบโรงงานหลอมพลาสติก ส่งกลิ่นเหม็น กำชับแก้ไขปรับปรุง พร้อมดำเนินการบริษัท พร้อมมาศ ขนวัสดุปนเปื้อนผงกำมะถันออกนอกโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต
เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีชาวบ้านมาบชะลูด-ชากกลาง ต.ห้วยโป่ง อ.เมืองระยอง ร้องศูนย์ดำรงธรรม โรงงานหลอมพลาสติกรีไซเคิ้ล เลขที่ 999 ต.ห้วยโป่ง ส่งกลิ่นเหม็นรบกวนชาวบ้าน
นายกรณ์ภัฐวีญ์ ม่วงน้อย อุตสาหกรรม จ.ระยอง สั่งการให้นายปิตินันท์ อักษร วิศวกรชำนาญการ เข้าตรวจสอบโรงงานดังกล่าว โดยมีนายสำเริง ขาวจันทร์ รองประธานชุมชนมาบชะลูด-ชากกลาง นายบัญชา สุขสุรัช ที่ปรึกษาชุมชนฯ พร้อมคณะกรรมการชุมชนและเจ้าหน้าที่สาธารณสุขฝ่ายสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองมาบตาพุด โดยมีนายรัชชัย เพียรทำดี เจ้าของโรงงานหลอมพลาสติก รีไซเคิ้ล นำตรวจสอบภายในอาคารโรงหลอม และบริเวณกองวัสดุถุงพลาสติกจำนวนมาก โดยรับว่าซื้อถุงพลาสติกปนเปื้อนผงกำมะถัน มาหลอมทำให้เกิดกลิ่นเหม็น
นายปิตินันท์ อักษร วิศวกรชำนาญการ กล่าวว่าพบสาเหตุที่มีกลิ่นเหม็น คือมีการนำถุงพลาสติกชนิด พีพี ปนเปื้อนผงกำมะถัน มาจาก บริษัท พร้อมมาศ จำกัด นำมาผลิตเม็ดพลาสติกไม่ถูกต้อง ระบบบำบัดมลพิษทางอากาศ อาจมีประสิทธิภาพไม่เพียงพอ ลักษณะเวส สครับเบอร์ กระจายไม่ทั่วถึงและไม่ถูกต้อง การทำความสะอาดหรือเปลี่ยนถ่านกัมมันต์เกินกำหนดระยะเวลา ซึ่งเจ้าของบอกว่าเปลี่ยนทุกๆ 8 เดือน นำตระแกรงกรองเศษดินปนทรายที่ปนเปื้อนพลาสติกไปเผา ระบบบำบัดน้ำเสีย ที่เกิดจากการล้างเศษพลาสติก มีสภาพไม่ดี จึงมีคำสั่งให้ปรับปรุงแก้ไขโดยเร็ว เพื่อป้องกันปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็นรบกวนชาวบ้าน
จากนั้นนายปิตินันท์ อักษร วิศวกรชำนาญการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สาธารณสุขและคณะกรรมการชุมชนมาบชะลูด-ชากกลาง เข้าตรวจสอบ บริษัท พร้อมมาศ จำกัด ประกอบกิจการเคมีภัณฑ์ ผลิตกรดซัลฟูริก 98 % ตั้งอยู่เลขที่ 21 ถนนเมืองใหม่มาบตาพุด สาย 6 ต.ห้วยโป่ง พร้อมแจ้งนายนิยม สุดแสง ผู้จัดการฝ่ายผลิต ว่าบริษัทฯนำถุงพลาสติกปนเปื้อนผงกำมะถันจากกระบวนการผลิตของบริษัทฯไปกำจัดหรือจำหน่ายให้กับบริษัทเอกชนรายหนึ่ง ทำให้เกิดเหตุกลิ่นเหม็นรบกวนชาวบ้านใกล้เคียง
นายปิตินันท์ อักษร วิศวกรชำนาญการ กล่าวว่าผลการตรวจสอบพบว่าเจ้าหน้าที่บริษัท พร้อมมาศ นำถุงพลาสติกปนเปื้อนผงกำมะถัน จำหน่ายให้เอกชนรายหนึ่งซึ่งใช้ใบประกอบกิจการที่ไม่สามารถกำจัดหรือบำบัดถุงพลาสติกปนเปื้อนผงกำมะถันของบริษัท พร้อมมาศได้จำนวน 15 ตัน จากการตรวจสอบเอกสารการขออนุญาตนำสิ่งปฏิกูลหรือวัสดุที่ไม่ใช้แล้วออกนอกโรงงาน ไม่ปรากฏการได้รับอนุญาตนำถุงพลาสติกปนเปื้อนฯแต่อย่างใด
