ผู้ป่วยติดเชื้อเอดส์วอนขอความเมตตา ความช่วยเหลือจากภาครัฐ ติดเชื้อมาหลายปีไร้เงินช่วยเหลือ พอมีสิทธิจะได้รับการช่วยเหลือกลับโดนโยกไปเป็นของคนอื่น ขณะที่ สสจ.ตรัง หลังจากทราบเรื่องความเดือดร้อนของผู้ป่วย เร่งช่วยเหลืออย่างเร่งด่วนแล้ว
เมื่อวันที่ 18 พ.ค. มีผู้ร้องเรียนว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมจากเจ้าหน้าที่ รพ.สต.ต๊ะเสะ เรื่องสิทธิเงินสวัสดิการสังคมกองทุนช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์หรือเบี้ยยังชีพ ที่มอบให้กับผู้ป่วยเอดส์
นายรักคุนากร สามทอง อายุ 42 ปี ชาวต.ต๊ะเสะ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง เป็นน้องชายของผู้ป่วยคือนางนิด (นามสมมติ) สามทอง อายุ 57 ปี ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ตนเองกับพี่สาวอาศัยอยู่กัน 2 คนพี่น้อง ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองประกอบอาชีพเป็น รปภ. ต่อมาพี่สาวเริ่มมีอาการป่วยหนักจึงตัดสินใจลาออกมาดูแลพี่สาวจนปัจจุบันตกงานและไม่มีรายได้กันทั้ง 2 คน ซึ่งตั้งแต่พี่สาวป่วยทางเจ้าหน้าที่แนะนำให้ไปยื่นสิทธิเงินสวัสดิการสังคมกองทุนช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์ตั้งแต่ปี 2554 แต่ไม่ได้รับการช่วยเหลือแต่อย่างได จนมาถึงเมื่อวันที่ 12 พ.ค. 2560 ที่ผ่านมามีเพื่อนบ้านมาบอกตนว่าให้ไปรับเงินสวัสดิการสังคมกองทุนช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์เพราะเงินมาแล้ว ตนจึงได้เดินทางไปพร้อมพี่สาว แต่ปรากฏว่าทางเจ้าหน้าโรงพยาบาลปฏิเสธว่าเงินดังกล่าวได้ตัดสิทธิไปให้คนอื่นแล้ว เป็นผู้ป่วยเอดส์หมู่ที่ 3 บ้านทุ่งเปลว เนื่องจากไม่สามารถติดต่อพี่สาวของตนได้ และให้ไปปีหน้าเดี๋ยวเงินตกมาใหม่ ตนเองได้ถามไปยังเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลว่าเงินส่วนกลางที่หน่วยงานช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์มาจากหน่วยงานไหน ทางเจ้าหน้าที่ตอบไม่ได้ และถามต่อไปว่าทำไมไม่ติดต่อฝ่ายปกครองท้องที่หรือ อสม.ในพื้นที่ แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ
หลังจากนั้นวันที่ 16 พ.ค.2560 ตนเองเข้าไปติดต่ออีกครั้งปรากฏว่าทางเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลให้ข้อมูลว่ารายชื่อผู้ป่วยไม่มีในสารระบบ จึงร้องขอผ่านสื่อให้ช่วยเหลืออยากให้พี่สาวของตนได้รับสวัสดิการสังคมกองทุนช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์ถึงแม้เงินจะน้อยนิดก็สามารถเป็นขวัญกำลังใจต่อลมหายใจให้พี่สาวได้
ทางด้านนางนิด(นามสมมุติ)สามทอง ผู้ป่วยเอดส์ ได้เปิดใจเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเองได้ทราบว่าตนเองติดเชื้อเอดส์เมื่อเดือนเมษายน 2554 และเริ่มกินยาเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน ตั้งแต่เริ่มป่วยไม่ได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงานใดเลย ตนเองต้องเดินทางรับยาตามหมอนัดที่โรงพยาบาลย่านตาขาวมารับประทานอย่างต่อเนื่อง ตอนที่รู้ว่าเป็นโรคเอดส์ครั้งแรกเคยคิดฆ่าตัวตายหลายครั้ง แต่มาได้กำลังใจจากพี่น้องญาติๆ และเพื่อนบ้านจึงมีกำลังใจในการมีชีวิตอยู่ต่อไป และทุกครั้งที่เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเจ้าหน้าที่พยาบาลย่านตาขาวและโรงพยาบาลตรังไม่เคยรังเกียจถูกเนื้อต้องตัวด้วยความห่วงใยและให้กำลังใจตนทุกครั้ง ซึ่งตนเองก็คอยเตือนให้ระมัดระวังไม่ให้โดนเลือดตนเวลานำเลือดเอาไปตรวจ ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลทุกคนที่ดูแลตนเองเป็นอย่างดีเพราะช่วงที่ตนเองอาการทรุดหนักตายไปแล้วทางเจ้าหน้าที่ได้ช่วยให้ตนได้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้งหนึ่ง
และตนเองมองว่าคนที่เป็นโรคนี้ญาติและเพื่อนบ้านมีความสำคัญมาก เขาไม่รังเกียจทำให้ผู้ป่วยมีกำลังใจจึง
อยากจะฝากไปยังผู้ป่วยเอดส์ทุกคนอย่าคิดทำร้ายตัวเองอย่าไปสนใจคำพูดของคนอื่นนำมาทำร้ายตัวเอง อยู่ให้มีความสุข ทำกิจกรรมอะไรก็ได้ที่ตนชอบสร้างความเพลิดเพลินอย่าเครียดกับชีวิต ตนเองไม่เคยโทษใครที่เป็นแบบนี้คิดว่าเป็นความผิดพลาดของตนเอง
สำหรับเงินสวัสดิการสังคมกองทุนช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์นั้นตนเองได้รับสิทธิตรงนั้นแล้ว แต่เมื่อไปรับสิทธิกลับโดนปฏิเสธทำให้ตนเองเสียใจมาก ตั้งแต่รับทราบว่าตนเองไม่ได้เสียใจร้องให้ทุกวัน อยากถามว่าเพราะเหตุผลใดที่ต้องตัดสิทธิ์ของตนไปให้คนอื่น และข้ออ้างที่ว่าติดต่อตนนั้นไม่ได้ตนมองว่าไม่ใช่เหตุผลฟังไม่ขึ้น แต่ตนเองก็ไม่คิดที่จะไปมีเรื่องมีราวหรือเอาผิดกับเจ้าหน้าที่แต่ตนเองต้องการเงินสวัสดิการสังคมกองทุนช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์ที่ตนเองมีสิทธิได้รับกลับคืนมาถึงว่าเงินช่วยเหลือจะไม่มาก แต่ตนก็รู้สึกภาคภูมิใจหากได้รับเงินช่วยเหลือในส่วนนี้
อย่างไรก็ตามต่อมาผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง นายแพทย์สมบัติ ผดุงวิทย์วัฒนา รองนายแพทย์สาธารณสุข ถึงปัญหาการจ่ายเงินสวัสดิการผู้ป่วยเอดส์ในช่วงที่ผ่านมา ทั้งที่ผู้ป่วยรายนี้พบว่าติดเชื้อเอดส์มาตั้งแต่เมษายน 2554 รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดตรัง ได้เปิดเผยว่า ในปีหนึ่งๆ สสจ.ตรัง ได้งบสนับสนุนช่วยสวัสดิการผู้ป่วยเอดส์ จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จำนวน 20 ทุนๆละ 2,000 บาท โดยเฉพาะผู้ป่วยรายนี้เข้ารักษาตัวและรับยาเอดส์ที่ ร.พ.ย่านตาขาว แต่ทุนที่ช่วยเหลือเป็นสวัสดิการที่ผ่านมาไม่เพียงพอ จึงทำให้ผู้ป่วยรายนี้ยังไม่ได้รับเงินช่วยเหลือแต่อย่างใด
แต่ขณะเดียวกันทาง สสจ.ตรัง ก็ไม่ได้นิ่งเฉย ได้มีการสอบถามมายัง ร.พ.ตรัง ปรากฏว่ามีเงินกองทุนสวัสดิการเหลืออีก 1 ทุน จึงได้จัดการโอนให้กับผู้ป่วยเอดส์รายนี้ พร้อมได้ประสานไปยังผู้ป่วยเอดส์ให้นำเอกสารมายื่นรับเงินทุนช่วยเหลือได้เลย อีกทั้งยังได้ประสานไปยัง พมจ.ตรัง เพื่อหาเงินทุนในการประกอบอาชีพแก่ผู้ป่วยเอดส์ทุนละ 5,000 ต่อปี รวมทั้งผู้ป่วยรายนี้ และยังทราบว่าขณะนี้ทาง อบต.ต๊ะเสะ ก็ได้ตั้งงบประมาณในการช่วยเหลือผู้ป่วยรายนี้แล้วเช่นเดียวกัน โดยจ่ายทุกเดือนๆละ 500 บาท อีกทั้งจะมีการเยี่ยมผู้ป่วยถึงบ้าน เพื่อตรวจสุขภาพและสร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้ป่วยอีกด้วย
