สกศ.ผุดแนวทางจัดการศึกษาเพื่อสร้างเถ้าแก่ใหม่ แนะตั้งศูนย์ปรึกษาธุรกิจสตาร์ทอัพครบวงจร

นายสมศักดิ์ ดลประสิทธิ์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา และโฆษกสำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา (สกศ.) เปิดเผยว่า สกศ.วิจัยแนวทางการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาความเป็นผู้ประกอบการ พบว่า มีข้อบ่งชี้สำคัญ 3 ประเด็นสำคัญ คือ 1.กำหนดแผนและทิศทางการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาความเป็นผู้ประกอบการทั้งระบบให้เหมาะสมต่อช่วงวัย และระดับการศึกษา 2.พัฒนาหลักสูตรและการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาความเป็นผู้ประกอบการในระดับอาชีวศึกษา และอุดมศึกษา 2 รูปแบบ คือ หลักสูตรการศึกษาเพื่อพัฒนาความเป็นผู้ประกอบการโดยเฉพาะ และหลักสูตรที่เน้นการสอดแทรกองค์ความรู้เชิงธุรกิจในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ประกอบด้วย อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ อุตสาหกรรมดิจิทัล และอุตสาหกรรมการแพทย์ครบวงจร และ 3.ศึกษาวิจัยและกำหนดแนวทางที่เหมาะสมกับบริบทของประเทศไทย และโลก ในการสร้างผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยและพัฒนา ที่เน้นนวัตกรรมและเทคโนโลยีเป้าหมาย ตั้งแต่ระดับห้องทดลองถึงระดับประเทศเพื่อรองรับการขยายตัวของผู้ประกอบการใหม่สำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพ

นายสมศักดิ์กล่าวต่อว่า สกศ.จึงต่อยอดการสังเคราะห์ และวิเคราะห์แนวทาง และข้อบ่งชี้งานวิจัยดังกล่าว โดยจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายรองรับทิศทางการพัฒนาประเทศ ควรจัดทำฐานข้อมูลวิสาหกิจ และผู้ประกอบการให้ครบถ้วน ถูกต้อง เป็นปัจจุบันเพียงแหล่งเดียวตามแผนบูรณาการศูนย์ข้อมูลของรัฐ เพื่อใช้ประโยชน์ในการวางแผน กำหนดนโยบาย เป้าหมาย มาตรการ เพื่อพัฒนาผู้ประกอบการ และส่งเสริมวิสาหกิจในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว นอกจากนี้ ยังเสนอจัดตั้งศูนย์ให้คำปรึกษาธุรกิจสตาร์ทอัพแบบครบวงจรที่มีการบริหารแบบรัฐร่วมเอกชน โดยให้บริการครบวงจรพร้อมระบบคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งนักลงทุน หรือนักธุรกิจมือใหม่ สอบถามข้อมูลแต่ละกลุ่มธุรกิจ รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญที่วิเคราะห์และวางแผนการลงทุน ตลอดจนจัดทำแผนแม่บทการพัฒนา และส่งเสริมผู้ประกอบการใหม่สำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนประเทศ รวมถึง การเสนอปรับปรุงกฎ ระเบียบ และกฎหมายที่เป็นอุปสรรคในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งจำเป็นเพื่อให้เกิดกรอบการปฏิบัติที่ชัดเจน อำนวยความสะดวกต่อการลงทุน และมีผลต่อการเกิดมาตรการและระบบการสนับสนุนอื่นๆ โดย สกศ.จะได้รายงานรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เพื่อสั่งการเชิงนโยบาย องค์กรหลัก ศธ.โดยเฉพาะสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) นำไปจัดการศึกษาต่อยอดกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพรุ่นใหม่

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image