แม่ทัพภาค4 นำผู้ต้องหาวางระเบิดเสาไฟฟ้าแถลงข่าว พร้อมควบคุมตัวชี้จุดลอบบอมบ์ ห้างบิ๊กซี

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 19 พฤษภาคม พล.ท.ปิยวัฒน์ นาควานิช แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าฯปัตตานี พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนใต้ พล.ต.จตุพร กลัมพสุต ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี และ พล.ต.ต.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปัตตานี ร่วมแถลงความคืบหน้าเหตุระเบิดห้างบิ๊กซี สาขาปัตตานี เมื่อวันที่ 9 พ.ค. และเหตุระเบิดเสาไฟฟ้าแรงสูงป่วน ช่วงเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาการแถลงข่าวในครั้งนี้ได้นำพยานหลักฐานจากการติดตามขยายผล พร้อมด้วยตัว 2 ผู้ต้องหาร่วมกันวางแผนก่อเหตุขว้างระเบิดใส่จุดตรวจและระเบิดเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 จุด ในพื้นที่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี โดยผู้ต้องหารับสารภาพว่า เป็นระดับแกนนำสั่งการและปฏิบัติการคนสำคัญของกลุ่มขบวนการบีอาร์เอ็น ทั้งนี้จากการบูรณาการของเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ฝ่าย นำไปสู่การขยายผลสามารถยึดอาวุธปืนเอ็ม 79 อาวุธปืนสั้น กระสุนปืนสงคราม และอุปกรณ์ในการก่อเหตุหลายรายการ

ระดับแกนนำสั่งการ 1 ใน 2 ผู้ต้องหา เปิดเผยว่า แผนการก่อเหตุแต่ละครั้งจะมีการตัดตอนไม่ให้ระดับผู้ปฏิบัติทราบ เพื่อเลี่ยงการถูกติดตามจับกุม การกระทำแต่ละครั้งไม่มีเงินสนับสนุน ต้องอยู่อย่างอดอยากโดยที่ขบวนการไม่ได้ช่วยเหลือดูแล กลับกันยังข่มขู่จะเอาชีวิตหากมีการทรยศ ทำให้ไม่มีทางเลือก ส่วนเหตุคาร์บอมบ์ห้างบิ๊กซีที่เกิดขึ้น แม้แต่ตนยังยอมรับไม่ได้ กระทำการโหดร้ายต่อคนศาสนาเดียวกัน ทั้งเด็กและผู้หญิงต้องมารับผลกระทบ จากการปลูกฝังอุดมการณ์แบ่งแยกดินแดนไม่เคยสอนให้ต้องทำร้ายคนศาสนาเดียวกัน มองว่าอุดมการณ์ของขบวนการในปัจจุบันไม่ใช่เรื่องของการต่อสู้เพื่อแบ่งแยกดินแดน แต่เป็นผลประโยชน์ส่วนตัวผู้ต้องหาอีกราย กล่าวว่า รับหน้าที่ประสานให้ช่วยอำนวยความสะดวกกลุ่มก่อเหตุขว้างระเบิดใส่จุดตรวจในพื้นที่ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี หลังทราบว่าเจ้าหน้าที่รู้ตัวผู้กระทำผิด มีตนเองอยู่ด้วยจึงตัดสินใจเข้ามารายงานตัว เพราะต้องหลบหนี อยู่อย่างหลบๆ ซ่อนๆ กลุ่มขบวนการไม่ได้ช่วยเหลือและไม่รู้จะพึ่งใคร จึงต้องหันหลังให้และเข้าหาฝ่ายเจ้าหน้าที่รัฐให้ช่วยเหลือ เพราะเป็นห่วงครอบครัวที่ถูกขู่ปองร้าย

จากนั้นเวลา 13.30 น. แม่ทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย ผู้บัญชาการศูนย์ปฎิบัติการตำรวจชายแดนภาคใต้ และ เจ้าหน้าที่ ที่ดูแลคดีคาร์บอมบ์ห้างบิ๊กซี ได้นำตัวผู้ถูกควบคุมตัวในคดีคนร้ายลอบวางระเบิดห้างบิ๊กซี ไปชี้จุดที่กลุ่มคนร้ายร่วมวางแผนก่อเหตุระเบิดห้างบิกซี สาขาปัตตานี โดยจุดแรกที่โรงเรียนตาดีกา ประจำมัสยิดบ้านตากอง ต.ตุยง อ.หนองจิก ซึ่งเป็นจุดวางแผนก่อเหตุ มีผู้ร่วมก่อการ 9 คน จุดที่ 2 ที่มัสยิดบ้านเกาะเปาะ ต.เกาะ อ.หนองจิก เป็นจุดนัดพบและใช้ก่อเหตุปล้นรถยนต์ และ ฆ่านายนุสน ขจรคำ เจ้าของรถกระบะที่ปล้นมา แต่จุดนี้ในวันเกิดเหตุ ผู้ถูกควบคุมตัวไม่ได้ไปเอง แต่ได้โทรศัพท์ไปบอกโต๊ะอีหม่าม ที่มัสยิดบ้านใหม่ ให้เช็ดล้างเลือด โดยมีหลักฐานคราบเลือด 2 จุด

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังจุดที่ 3 ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายได้นำศพของนายนุสน ไปทิ้งหลังจากเสียชีวิต ที่ บริเวณคูน้ำข้างทาง ต.เกาะเปาะ อ.หนองจิก ก่อนจะนำไปประกอบระเบิดรถคาร์บอมบ์และไประเบิดที่ห้างบิ๊กซี สาขาปัตตานี

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image