วันที่ 20 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีนายทุนเงินกู้ดอกเบี้ยโหด หลังมีการจับกุมนางสาวสุพิชญ์ฌา อภิชัจฐ์โภคิน อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นนายทุนเงินกู้รายใหญ่ และเป็นเจ้าของกิจการโชว์รูมจำหน่ายรถจักรยานยนต์ รายใหญ่ของ จ.นครพนม ที่มีสาขาจำนวนมาก ในพื้นที่ จ.นครพนม และจังหวัดใกล้เคียงมากกว่า 20 สาขา ซึ่งทางตำรวจได้มีการสอบสวนขยายผล จับกุม ในข้อหาในข้อหากระทำความผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและให้บุคคลอื่นยืมเงินโดยคิดอัตราดอกเบี้ย เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และปลอมแปลงเอกสารสิทธิ เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา หลังชาวบ้านเข้าแจ้งความร้องทุกข์ว่า นายทุนดังกล่าวว่า เอารัดเอาเปรียบในการปล่อยกู้ดอกเบี้ยโหด
ล่าสุดที่ สภ.เมือง นครพนม หลังมีการจับกุมเจ้าแม่เงินกู้รายนี้ พบว่า ยังคงมีประชาชน ลูกหนี้จากหลายจังหวัด นำเอกสารหลักฐานเดินทางมาแจ้งความกับพนักงานสอบสวน เพื่อร้องทุกข์ดำเนินคดี ซึ่งมีผู้เสียหายเข้าแจ้งความรวมแล้วกว่า 50 ราย โดยจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่า ส่วนใหญ่จะมีปัญหาในเรื่องของการทำสัญญาในลักษณะเดียวกัน คือ มีการทำสัญญาเงินกู้ขึ้นเป็น 2 ฉบับ โดยฉบับแรกจะเป็นสัญญาเงินกู้วงเงินจริง ส่วนฉบับที่ 2 จะเป็นสัญญาวงเงินค้ำประกัน พอผิดสัญญาชำระ จะมีการนำสัญญาทั้ง 2 ฉบับ มารวมยอด มีวงเงินรายละประมาณ 1 แสนถึง 1 -2 ล้านบาท เพื่อทำการฟ้องร้องยึดทรัพย์สิน บังคับคดี โฉนดที่ดิน ที่นำมาจำนอง ซึ่งทางตำรวจได้ เร่งสอบสวนตรวจสอบเอกสารหลักฐาน แยกเป็นรายไป เนื่องจากบางรายหากเป็นสัญญาเงินกู้ที่ถูกต้อง จะไม่สามารถดำเนินคดีได้ และบางส่วนในการกู้ยืมในสัญญา จะต้องมีการชำระหนี้ตามกฎหมาย นอกจากที่มีปัญหาที่เจ้าหนี้ลงในสัญญาเกินความเป็นจริง
ขณะเดียวกันทางด้าน พล.ต.ต.ธนาศักดิ์ ฤทธิ์เดชไพบูลย์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 4 ได้ลงพื้นที่ประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวข้อง รวมถึงเจ้าหน้าที่ ปปง. กำชับให้มีการสอบสวนดำเนินคดีแบบรัดกุม และให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย พร้อมรวบรวมเอกสารหลักฐานเสนอต่อ ปปง.ทำการตรวจสอบ เกี่ยวกับการทำธุรกิจ เส้นทางการเงิน การเสียภาษี และประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องดูแลช่วยเหลือลูกหนี้ตามขั้นตอน และแจ้งไปยังประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนให้มาติดต่อประสานงานแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เมืองนครพนม ส่วนการดำเนินคดีจะต้องรอการสอบสวน สรุปสำนวน นำส่งอัยการ ตามขั้นตอนต่อไป
