ทหาร ตำรวจ เข้าตรวจสอบและยึดไม้หวงห้ามขนาดใหญ่กว่า 65 ท่อน พร้อมไม้แปรรูปเกือบพันแผ่น มูลค่าไม่น้อยกว่า 5 ล้านบาท หลังชาวบ้านร้องเรียนว่ามีการขนย้ายและแปรรูปอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย เจ้าของเป็นภรรยาของข้าราชการป่าไม้ระดับบิ๊กในจังหวัด โดยให้การว่าซื้อมาปลูกบ้าน พบสามีเป็นผู้เซ็นอนุญาต
เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 19 พฤษภาคม ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดปราจีนบุรี นำโดย พ.ต.ท.ประสิทธิ์ ฮะกาว รอง ผกก.กก.สส.จ.ปราจีนบุรี พ.ต.ท.หัสพล โพธิ์ทอง สว.สส. พร้อมด้วยทหารจากมณฑลทหารบกที่ 12(มทบ.12) ค่ายจักรพงษ์ จ.ปราจีนบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกจำนวนหนึ่งเข้าตรวจสอบที่โกดังไม่มีเลขที่ ของนายสงกรานต์ ท่าหิน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 ต.คู้ลำพัน อ.ศรีมโหสถ จ.ปราจีนบุรี หลังได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าพบมีการนำไม้ขนาดใหญ่จำนวนมากมาเก็บและแปรรูปมาเป็นเวลานาน
จึงสนธิกำลังเข้าตรวจสอบ พบนายสงกรานต์ ท่าหิน ผู้ใหญ่บ้านออกมารับว่าเป็นโรงเรือนของตนเอง แต่ไม้ทั้งหมดเป็นของนายไล้ สืบแสง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ชำนาญการ สำนักงานพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 จ.ปราจีนบุรี น้องเขย จึงได้เชิญตัวมาร่วมตรวจสอบ ในเบื้องต้นนายไล้ยืนยันว่าไม้ทั้งหมด ทั้งไม้สัก ไม้ตะเคียน ไม้ประดู่ และไม้มะค่า รวมทั้งไม้อื่นๆ ได้มาอย่างถูกต้องโดย น.ส.หทัยรัตน์ ท่าหิน อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 1 ต.คู้ลำพัน อ.ศรีมโหสถ ซึ่งเป็นภรรยาซื้อมาจากชาวบ้านเพื่อจะนำไปปลูกบ้านอย่างถูกต้อง
ตรวจสอบพบมีการออกเอกสารกำกับครบ พร้อมทั้งมีการตีตราตามระเบียบตรงกับเอกสาร ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอให้นำเอกสารมาสำแดง ซึ่งจากการตรวจสอบเอกสารทั้งหมด ปรากฏว่านายไล้กลับเป็นผู้ออกใบอนุญาตให้กับภรรยาทั้งหมด จนเป็นที่น่าสงสัย เมื่อสอบถามว่าได้มาจากไหน นายไล้บอกว่าภรรยาซื้อมาจากชาวบ้านทั้งในเขต อ.ศรีมโหสถและประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี แต่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าซื้อมาจากใคร นอกจากนั้นยังพบไม้มะค่าแปรรูปแล้วเกือบหนึ่งพันแผ่นกองไว้ในโรงเรือน รวมมูลค่าไม้ทั้งหมดไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท แต่หากแปรรูปแล้วราคาจะสูงขึ้นอีกเท่าตัว และขนาดของหน้าไม้ยังมีขนาดใหญ่ หน้ากว้างสูงสุดกว่าหนึ่งเมตร เล็กสุด 40 ซม. แต่ละท่อนจะยาวตั้งแต่ 6-12 เมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงบันทึกตรวจยึดไม้ทั้ง 65 ท่อนไว้เพื่อตรวจสอบให้ชัดเจนอีกครั้ง โดยเบื้องต้นได้อายัดไม้ทั้งหมดไว้และห้ามเคลื่อนย้ายโดยเด็ดขาดจนกว่าจะมีการพิสูจน์เรียบร้อยแล้ว
ในขณะเดียวกัน นายสงกรานต์ ท่าหิน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งเป็นพี่ภรรยาก็อาจโดนข้อหาให้ที่ซุกซ่อนไม้ผิดกฎหมาย หากผลการพิสูจน์ออกมาว่าไม้ทั้งหมดได้มาอย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งอาจถูกตั้งกรรมการสอบจากทาง อ.ศรีมโหสถ ในฐานความผิดร่วมกันกระทำความผิด
