วันที่ 20 พฤษภาคม นางเตือนใจ ดีเทศน์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ( กสม.)ประธานคณะอนุกรรมการด้านสถานะบุคคล สิทธิกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง พร้อมคณะเจ้าหน้าที่มูลนิธิชุมชนไทย เดินทางไปที่ ศูนย์ฝึกอบรมนักศึกษาคณะวนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อพิสูจน์สิทธิกลุ่มคนไทยพลัดถิ่น ตามข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกรมการปกครองกระทรวงมหาดไทย และ กสม.
จากนั้นได้สรุปปัญหาและแนวทางในการปฏิบัติ หลังจากได้รับร้องเรียนจากกลุ่มมุสลิมมะริดสมาชิกเครือข่ายแก้ปัญหาสัญชาติคนไทยจำนวน 74 ครอบครัว 248 คนในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ถูกจำหน่ายชื่อออกจากทะเบียนราษฎร และไมมีสถานะคนไทย ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)สัญชาติฯ แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 5 ทำให้มีปัญหาในการเดินทางออกนอกพื้นที่และการประกอบอาชีพ ขณะหน่วยงานของรัฐบางแห่งไม่สามารถดำเนินการตามข้อเรียกร้องให้มีความคืบหน้าเนื่องจากอ้างว่าเอกสารเดิมสูญหาย และมีการตรวจสอบการสวมสิทธิ์โดยกรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ ดีเอสไอ นอกจากนั้นการให้สถานะกับไทยพลัดถิ่นบางกลุ่มอาจมีปัญหาด้านความมั่นคงของชาติ
นางเตือนใจ กล่าวว่า ที่ผ่านคนไทยพลัดถิ่นกว่า 400 รายจากในพื้นที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ จ.ชุมพร จ.ระนอง และ จ.พังงา ได้รวมตัวเรียกร้องการมีสัญชาติไทยต่อเนื่องนานหลายปี โดยรวมรวมบัญชีรายชื่อที่ปรากฏหลักฐานชัดเจนว่าไม่มีการทุจริตจากการสวมสิทธิ์ และเป็นคนไทยตามการเกิดโดยบรรพบุรุษจากการพิสูจน์ข้อเท็จจริงตามผังเครือญาติ และบุคคลดังกล่าวต้องไม่ถือสัญชาติอื่น แต่ที่ผ่านมามีปัญหาจากผู้รับรองคือ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตัวแทนองค์กรปกครองท้องถิ่น ( อปท.) บางพื้นที่มีปัญหาในการปฏิบัติหน้าที่โดยเป็นกลุ่มผู้มีอิทธิพล และ มีการทุจริตเรียกรับผลประโยชน์
“ สำหรับกลุ่มอิสลามมะริดได้ร่วมรณรงค์เดินเท้าเพื่อเรียกร้องสัญชาติตั้งแต่ปี 2554 แต่มีปัญหาพบว่ามีการทุจริตจากการให้สัญชาติไทยเนื่องจากมีการสวมสิทธิ ทำให้บุคลกลุ่มนี้ถูกจำหน่ายชื่อออกจากสาระบบในทะเบียนราษฎรตั้งแต่ปี 2552 กลายเป็นคนเถื่อน แต่ได้ยืนยันหลายครั้งในการประชุมว่าคนกลุ่มนี้ถูกละเมิดสิทธิ จะต้องมีการแก้ไขเพื่อขอให้คืนชื่อในทะเบียนราษฎร และไม่ได้รับการยอมรับว่าเป็นคนไทยตามคุณสมบัติที่กำหนดไว้ พ.ร.บ สัญชาติ ซึ่งอนุกรรมการ กสม.จะต้องเชิญตัวแทนกรมการปกครองมาหารือ เพื่อชี้แจงว่าทำไมไม่เร่งตรวจสอบแก้ไขทั้งที่กระทรวงมหาดไทยมีคำสั่งตามแนวทางปฏิบัติอย่างชัดเจน และเป็นปัญหาสำคัญที่มีผู้ถูกละเมิดสิทธิในลักษณะนี้หลายจังหวัดทั่วประเทศกว่า 18,000 คน โดย กสม.จะเร่งสรุปเสนอกรมการปกครองเพื่อให้ชี้แจงข้อเท็จจริงภายใน 30 วัน “ นางเตือนใจ กล่าว
