กกต.เตรียมนำโปรแกรม”อีอาร์เอ็ม” ช่วยจัดเลือกตั้งครั้งหน้า หลังทดลองใช้ช่วงประชามติได้ผลดี -มีประสิทธิภาพ ยัน ไม่มีต้นทุนค่าใช้จ่าย
เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม ที่โรงแรมวี ราชเทวี กรุงเทพมหานคร นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวภายหลังการประชุมเชิงปฏิบัติการ”ทำความรู้จักกับเครื่องมือการจัดการความเสี่ยงการเลือกตั้ง ว่า การสัมมนาในครั้งนี้ทางมูลนิธิองค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย (PNET) ร่วมกับทาง International IDEA ซึ่งเป็นองค์กรต่างประเทศที่เข้ามาสนับสนุนเพื่อให้การจัดการเลือกตั้งเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับโปรแกรม Electoral Risk Management Tools ( ERM) หรือ โปรแกรมบริหารความเสี่ยงในการเลือกตั้ง ผู้ใช้สามารถใช้โปรแกรมดังกล่าวเพื่อติดตามกระบวนการจัดการเลือกตั้งว่ามีปัญหาหรือความเสี่ยงในจุดใดเพื่อจะได้ดำเนินการแก้ไข โปรแกรมนี้ทางกกต.เคยได้รับความอนุเคราะห์ให้นำมาใช้ช่วงการออกเสียงประชามติครั้งที่ผ่านมา โดยเลือกองค์ประกอบที่สำคัญ 3 ข้อ ประกอบด้วย 1.ความพร้อมในการอบรมกรรมการประจำหน่วย 2.ความพร้อมเรื่องวัสดุอุปกรณ์การออกเสียงประชามติ และ3.การประเมินภัยธรรมชาติ ซึ่งจากการทดลองใช้โปรแกรมครั้งที่ผ่านมาปรากฎว่าได้ผลดีและมีประสิทธิภาพ
นายสมชัย กล่าวว่า เมื่อโปรแกรมดังกล่าวผลออกมาดี ส่วนตัวจึงได้ให้นโยบายกับสำนักงานกกต.ว่าการเลือกตั้งในอนาคตเราจะมีการนำโปรแกรมดังกล่าวมาใช้อีกครั้ง แต่จะมีการเพิ่มองค์ประกอบในการประเมินจาก3 องค์ประกอบเป็น 10 องค์ประกอบเพื่อให้ซับซ้อนขึ้น และได้ประโยชน์อย่างแท้จริง ทั้งนี้สิ่งที่ตนให้นโยบายแก่สำนักงาน กกต. คือ โปรแกรมดังกล่าวจะต้องไม่ได้ใช้เพียงแค่ประกอบการนำเสนอให้ดูดีเท่านั้น แต่จะต้องสามารถนำไปใช้จริงในการบริหารจัดการเลือกตั้งเพื่อให้รู้ถึงปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นด้วย ซึ่งองค์ประกอบที่เพิ่มขึ้นนั้นจะมีองค์ประกอบที่สำคัญอยู่ 2 ตัว คือ ความเสี่ยงของเหตุการณ์ทุจริตการเลือกตั้งแต่ละเขต โปรแกรมนี้จะต้องแสดงให้เห็นว่าเขตใดมีความเสี่ยงสูงในการทุจริตการเลือกตั้ง เพื่อกกต.จะได้ดำเนินการแก้ไข และการประเมินความพร้อมเรื่องการมีส่วนร่วมขององค์กรเอกชนในการตรวจสอบการเลือกตั้ง ซึ่งเราได้กำหนดว่าการเลือกตั้งครั้งหน้าจะต้องมีองค์กรเอกชนครบทุกจังหวัดและครอบคลุมพื้นที่ไม่น้อยกว่า 75 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้นเชื่อว่าโปรแกรมนี้จะช่วยกกต.ดำเนินการจัดการเลือกตั้งได้มีประสิทธิภาพ
“ส่วนที่มีคนถามว่าการใช้โปรแกรมนี้จะเป็นการสิ้นเปลืองงบประมาณหรือไม่ คำตอบคือโปรแกรมนี้ กกต.ได้มาฟรี ไม่มีต้นทุนในการใช้จ่าย ส่วนการอบรมพนักงาน กกต.ที่จะให้เรียนรู้การใช้โปรแกรมนี้ก็อยู่ในหลักสูตรการอบรมที่กกต.ดำเนินการเป็นประจำอยู่แล้ว เพียงแค่สอดแทรกเนื้อหานี้เพิ่มเข้าไปเท่านั้นเอง ดังนั้นต้นทุนของโปรแกรมนี้จึงเป็นศูนย์ ไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆเลย ” นายสมชัย กล่าว
