นัดปิดฤดูกาล’พรีเมียร์ลีก’กับการเดิมพันท็อปโฟร์ของ’เรือ-หงส์-ปืน’

ศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลีกลูกหนังยอดนิยมอันดับ 1 ของโลกจะปิดฉากคืนวันอาทิตย์นี้ เมื่อทั้ง 20 ทีมลงฟาดแข้งนัดสุดท้ายพร้อมๆ กันรวม 10 คู่ แมตช์ส่งท้ายฤดูกาลนั้นไม่มีผลเรื่องการลุ้นแชมป์ เนื่องจาก เชลซี การันตีถ้วยตั้งแต่ 2 นัดที่แล้ว

และในขณะเดียวกันก็ไม่มีผลเรื่องการลุ้นหนีตกชั้น เพราะทราบ 3 ทีมที่จะต้องไปเล่นในลีกแชมเปี้ยนชิพฤดูกาลหน้าเรียบร้อยหมดแล้ว ได้แก่ ฮัลล์ ซิตี้, มิดเดิลสโบรช์ และ ซันเดอร์แลนด์

แต่ก็ใช่ว่าเกมปิดท้ายฤดูกาลพรีเมียร์ลีกจะปราศจาก “ดราม่า” แต่อย่างใด เพราะยังมีโควต้าสำคัญอย่างสิทธิร่วมแข่งขัน ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ให้ได้ลุ้นกันอยู่

สำหรับอันดับ 1-2 ของตารางนั้น เชลซีกับ สเปอร์ส  จองที่ไว้เรียบร้อย ขณะที่อันดับ 6 แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็หมดสิทธิสอดแทรกขึ้นไปติดท็อปโฟร์ หรือแม้กระทั่งอันดับ 5 แน่นอนแล้วเช่นกัน

Advertisement

เท่ากับว่าในตอนนี้เหลือโควต้าอันดับ 3-5 ให้ได้ชิงชัยกันระหว่าง 3 ทีมยักษ์ใหญ่ ได้แก่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้, ลิเวอร์พูล  และ อาร์เซน่อล ซึ่งทุกอันดับล้วนมีความหมายทั้งสิ้น เนื่องจากทีมอันดับ 3 จะได้สิทธิไปเตะแชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม ขณะที่อันดับ 4 ต้องไปเล่นรอบคัดเลือก ส่วนอันดับ 5 ต้องพอใจแค่ถ้วยใบเล็กอย่างยูโรป้าลีกแทน

สถานการณ์ในขณะนี้ เรือใบสีฟ้าอยู่อันดับ 3 ของตาราง เตะ 37 นัด มี 75 คะแนน กับผลต่างประตู +36 (ได้ 75 เสีย 39) ส่วนหงส์แดงอยู่อันดับ 4 มี 73 คะแนน กับผลต่างประตู +33 (ได้ 75 เสีย 42) และปืนใหญ่ตามมาในอันดับ 5 มี 72 คะแนน กับผลต่างประตู +31 (ได้ 74 เสีย 43)

Advertisement

นัดสุดท้ายของฤดูกาล อาร์เซน่อลจะเล่นในบ้านพบ เอฟเวอร์ตัน, ลิเวอร์พูลเปิดรังแอนฟิลด์รับมือ มิดเดิลสโบรช์  และแมนฯซิตี้ไปเยือน วัตฟอร์ด เรือใบสีฟ้าขอแค่เสมอก็จะติดอันดับท็อปโฟร์ ส่วนลิเวอร์พูลถ้าชนะก็จะได้ไปเตะแชมเปี้ยนส์ลีกเช่นกัน ขณะที่อาร์เซน่อลเหนื่อยหน่อย เพราะนอกจากจะชนะแล้ว ต้องลุ้นให้ลิเวอร์พูลแค่เสมอหรือแพ้ ไม่ก็ลุ้นให้แมนฯซิตี้แพ้ยับเพื่อจะได้แซงตรงผลต่างประตูได้เสีย

ตามกฎของพรีเมียร์ลีกนั้น การจัดอันดับตารางคะแนน จะยึดคะแนนรวมที่แต่ละทีมทำได้เป็นหลักก่อน ถ้าเท่ากันให้ดูที่ผลต่างประตูได้เสีย และถ้าเท่ากันอีกก็ให้วัดจากประตูที่ยิงได้ แต่หากทุกอย่างเท่ากันหมดก็ให้ถือว่าทั้ง 2 ทีมอยู่ในอันดับเดียวกัน ซึ่งเงินรางวัลก็จะเอามาบวกกันแล้วหาร 2 เช่นกรณีทีม A กับ B ได้อันดับ 11 ร่วมกัน ก็จะข้ามอันดับ 12 ให้ทีม C ได้อันดับ 13 ส่วนเงินรางวัลของทีม A กับ B จะเอาเงินรางวัลอันดับ 11 กับ 12 มารวมกันแล้วหาร 2

อย่างไรก็ตาม กฎของพรีเมียร์ลีกระบุว่า หากสถิติทุกอย่างเท่ากัน แต่จำเป็นต้องจัดอันดับให้ได้เพื่อหาทีมขึ้นชั้น ตกชั้น หรือคว้าโควต้าร่วมแข่งขันฟุตบอลถ้วย ทีมที่มีคะแนนเท่ากันเหล่านั้นก็จะต้องมาเตะเพลย์ออฟกันที่สนามกลาง โดยบอร์ดของพรีเมียร์ลีกจะเป็นผู้กำหนดรูปแบบการแข่งขัน

จะเห็นว่ากรณีของ 3 ทีมยักษ์ในฤดูกาลนี้ ทั้งคะแนน ทั้งผลต่างประตู และประตูยิงได้ของเรือใบสีฟ้า หงส์แดง และปืนใหญ่ถือว่าใกล้เคียงกันมาก จึงมีความเป็นไปได้ที่ 3 ทีมนี้อาจจะต้องประกบคู่แข่งขันเพลย์ออฟกันโดยมีเดิมพันเป็นสิทธิการเล่นถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ขึ้นอยู่กับผลแข่งขันนัดสุดท้าย

ความเป็นไปได้ที่ทั้ง 3 ทีมจะแต้มเท่า ผลต่างประตูเท่า และยิงประตูเท่ากันทั้งหมดพร้อมๆ กันนั้นไม่มี แต่ถ้าประกบคู่ 2 จาก 3 ทีมนั้นเป็นไปได้แน่นอน ตามเงื่อนไขต่างๆ ดังนี้

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ VS ลิเวอร์พูล
กรณีนี้จะเกิดขึ้นหากแมนฯซิตี้บุกเสมอวัตฟอร์ดตั้งแต่ 3 ประตูขึ้นไป และลิเวอร์พูลเปิดบ้านถล่มซันเดอร์แลนด์ด้วยระยะห่าง 3 ลูก โดย 2 สนามต้องมีสกอร์คล้องจองกันไปตามเงื่อนไขดังกล่าว เช่น เรือใบเสมอ 3-3 และหงส์ชนะ 3-0 หรือเรือเสมอ 4-4 และหงส์ชนะ 4-1 เป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ

กรณีนี้จะทำให้ทั้งลิเวอร์พูลและแมนฯซิตี้มี 76 คะแนนเท่ากัน มีผลต่างประตู +36 เท่ากัน และมีประตูยิงได้เท่ากัน (ตั้งแต่ 78 ประตูขึ้นไป) และทั้ง 2 ทีมต้องมาเตะเพลย์ออฟเพื่อชิงอันดับ 3 โดยผู้แพ้จะจบในอันดับ 4 ขณะที่เกมเตะของอาร์เซน่อลจะไม่มีผลใดๆ เพราะปืนใหญ่ต่อให้ชนะนัดสุดท้ายก็ยังมีแค่ 75 คะแนน ต้องจบในอันดับ 5 อย่างแน่นอน

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ VS อาร์เซน่อล
กรณีนี้จะเกิดขึ้นได้หมายความว่าเรือใบสีฟ้าจะต้องประสบกับความพ่ายแพ้อย่างย่อยยับที่วิคาราจโร้ดเลยทีเดียว โดยเรือใบต้องแพ้ด้วยผลต่าง 4 ประตู ส่วนอาร์เซน่อลเฉือนชนะเอฟเวอร์ตันด้วยผลต่าง 1 ประตู เช่น แมนฯซิตี้แพ้ 0-4 และปืนใหญ่ชนะ 1-0 หรือแมนฯซิตี้แพ้ 1-5 และปืนใหญ่ชนะ 2-1 เป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ

หากผลออกมาตามตัวอย่างข้างต้นจะทำให้ทั้งปืนใหญ่และเรือใบสีฟ้ามี 75 คะแนนเท่ากัน ผลต่างประตู +32 เท่ากัน และประตูยิงได้ (75 ประตูขึ้นไป) เท่าๆ กัน และต้องเตะเพลย์ออฟกัน ส่วนจะมีอันดัใดเป็นเดิมพันนั้น ขึ้นอยู่กับผลแข่งขันลิเวอร์พูลกับมิดเดิลสโบรช์เป็นสำคัญ

ถ้าหงส์แดงชนะโบโร่ จะทำให้มี 76 แต้ม แซงทั้ง 2 ทีมขึ้นไปรั้งอันดับ 3 ทิ้งให้ปืนกับเรือเตะเพลย์ออฟชิงอันดับ 4 แต่ถ้าหงส์แดงไม่ชนะ คะแนนก็จะไล่ 2 ทีมนี้ไม่ทัน และได้อันดับ 5 อย่างแน่นอน ทำให้ปืนกับเรือได้เตะเพลย์ออฟแย่งอันดับ 3 กันแทน

อาร์เซน่อล VS ลิเวอร์พูล
กรณีนี้จะเกิดได้ อาร์เซน่อลจะต้องเสมอกับท็อฟฟี่เมนแบบมีประตู และลิเวอร์พูลต้องแพ้มิดเดิลสโบรช์ด้วยระยะห่าง 2 ลูก เช่น ปืนใหญ่เสมอ 1-1 และหงส์แดงแพ้ 0-2 หรือปืนใหญ่เสมอ 2-2 และหงส์แดงแพ้ 1-3 เป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ

หากผลการแข่งขัน 2 สนามเข้าแก๊บข้างต้น อาร์เซน่อลกับลิเวอร์พูลจะมี 73 คะแนนเท่ากัน ผลต่างประตู +31 เท่ากัน และประตูยิงได้ (ตั้งแต่ 75 ประตูขึ้นไป) เท่ากัน ซึ่งหมายความว่าทั้ง 2 ทีมจะไล่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มีแต้มเหนือกว่าไม่ทันแล้ว เรือใบจะปิดฤดูกาลในอันดับ 3 อย่างแน่นอน และปืนใหญ่กับหงส์แดงต้องไปเพลย์ออฟชิงอันดับ 4 หรือโควต้าสุดท้ายเพื่อไปเตะถ้วยยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกกันเอาเอง

หากเป็นเช่นนั้นจริงก็จะถือว่าเป็นการลุ้นจนหยดสุดท้ายย้อนความหลังเมื่อครั้งอาร์เซน่อลกับลิเวอร์พูลไล่บี้แย่งแชมป์ดิวิชั่น 1 จนกระทั่งนัดปิดฤดูกาล 1988-89 ซึ่งทั้ง 2 ทีมเตะ 38 นัด มี 76 คะแนนเท่ากัน แถมผลต่างประตูได้เสียเป็น +37 เท่ากัน

…แต่อาร์เซน่อลเป็นแชมป์เพราะยิงได้เยอะกว่าเท่านั้นเอง!

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image