หลานยายบังอร เหยื่อเจ้าแม่เงินกู้โหดจนตรอมใจตาย แจ้งความ แฉถูกโกงยึดที่ทำเลทอง

หลานสาวยายบังอร เหยื่อเจ้าแม่เงินกู้ เข้าแจ้งความ แฉถูกโกงยึดที่ทำเลทอง ทำสัญญากู้ 2 แสน ถูกฟ้อง 4 ล้านบาท ยายตรอมใจตาย หลังสู้คดีร่วม 10ปี แพ้

เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า เกี่ยวกับคดีจับกุมเจ้าแม่เงินกู้ดอกเบี้ยโหด หลังตำรวจทำการสอบสวนขยายผลกรณีมีชาวบ้านที่ตกเป็นเหยื่อลูกหนี้มาแจ้งความร้องทุกข์ ที่ สภ.เมืองนครพนม พร้อมมีการรวบรวมหลักฐานจับกุม นางสาวสุพิชญ์ฌา อภิชัจฐ์โภคิน อายุ 56 ปี ซึ่งเป็นนายทุนเงินกู้รายใหญ่ และเป็นเจ้าของกิจการโชว์รูมจำหน่ายรถจักรยานยนต์ รายใหญ่ของ จ.นครพนม ที่มีสาขาจำนวนมาก ในพื้นที่ จ.นครพนม และจังหวัดใกล้เคียงมากกว่า 20 สาขา ในข้อหากระทำความผิดร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและให้บุคคลอื่นยืมเงินโดยคิดอัตราดอกเบี้ย เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และปลอมแปลงเอกสารสิทธิ เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมา ทำให้มีผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์เพิ่มแล้วกว่า 50 ราย

ล่าสุดพบว่าได้มี นางสาวปราณี สมบัติ อายุ 45 ปี ชาวบ้านภูเขาทอง ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม พร้อมด้วย นายปัญญา ค่ำคูณ อายุ 49 ปี หลานสาวและบุตรชายเหยื่อนายทุนเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ได้เข้าพบ พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม และพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เพื่อร้องทุกข์ให้ข้อมูลเกี่ยวกับความเดือดร้อน เนื่องจากเป็นหลานสาว และบุตรชาย ของ นางบังอร ค่ำคูน อายุ 86 ปี ซึ่งเป็นลูกหนี้รายสำคัญ ที่ตรอมใจตาย เมื่อเดือนพฤษภาคม 2558 เนื่องจากคุณยาย เป็นเหยื่อเจ้าแม่เงินกู้ดอกเบี้ยโหด โดยได้เอาโฉนดที่ดิน จำนวน 1 ไร่ 1 งาน ที่มีทำเลทอง ติดถนนสาย นครพนม – สกลนคร บ้านภูเขาทอง ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม ไปจำนองกับเจ้าแม่เงินกู้ เป็นเงิน จำนวน 2 แสนบาท ตั้งแต่ปี 2540 ภายหลังผิดนัดส่งหนี้ตามสัญญา จึงถูกฟ้องร้องดำเนินคดีในปี 2544 เป็นหนี้วงเงินสูงถึง 4 ล้านบาท ทำให้มีการต่อสู้คดีมาถึงปี 2553 จนกระทั่งถูกขับไล่ บังคับคดียึดที่ดิน ดังกล่าว

ต่อมาในปี 2554 นางบังอร ค่ำคูน อายุ 86 ปี ได้เข้าร้องทุกข์ต่อศูนย์ช่วยเหลือลูกหนี้นอกระบบที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม กระทรวงยุติธรรม โดยมีการไกล่เกลี่ยแต่เกิดปัญหาไม่มีเงินไปชำระหนี้ เนื่องจากมีการเซ็นเอกสารหลักฐานในสัญญาเงินกู้ตามกฎหมาย แต่มีเพียงวงเงินเกินความเป็นจริง แต่ได้ผ่านกระบวนการตัดสินของศาลไปเรียบร้อยแล้ว ทำให้ที่ดิน ตกเป็นของเจ้าหนี้ และมีการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ปัจจุบันได้ก่อสร้างเป็นโชว์รูมรถจักรยานยนต์ สาขาหนึ่งของนายทุนเจ้าแม่เงินกู้รายนี้ เนื่องจากไปติดต่อซื้อมาจากกรมบังคับคดี

Advertisement

โดย นางสาวปราณี สมบัติ อายุ 45 ปี หลานสาวเหยื่อนายทุนเจ้าแม่เงินกู้ดอกเบี้ยโหด ได้เปิดเผยว่า จะได้รวบรวมเอกสารหลักฐานเข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน รวมถึงหน่วยงานเกี่ยวข้อง เพื่อทำการตรวจสอบ ถึงแม้จะผ่านกระบวนการพิจารณาของศาล แต่ตนเชื่อมั่นว่าที่ดินดังกล่าวได้มามิชอบด้วยกฎหมาย เพราะในสัญญากู้ยืมคุณยายกู้มาแค่ 2 แสนบาท ซึ่งเชื่อว่ามีการใช้กลโกงหลอกให้คุณยายเซ็นสัญญา แต่พอไม่มีจ่ายกับถูกฟ้องร้องในวงเงินสูงถึง 4 ล้านบาท ถือว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ถึงแม้จะไม่มีโอกาสที่จะได้ที่ดินคืน แต่อยากให้นายทุนได้รับโทษตามกฎหมาย ที่เอารัดเอาเปรียบชาวบ้าน ที่สำคัญที่ดินของคุณยาย เป็นทำเลทองติดถนนใหญ่ หลังชนะคดี มีการรื้อสร้างอาคารประกอบธุรกิจของตัวเอง อยากให้เจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจสอบ หากเป็นไปได้จะร้องให้มีการรื้อฟืนคดี เพื่อขอความเป็นธรรม ร่วมกับลูกหนี้รายอื่นๆ เนื่องจากเชื่อมั่นว่าที่ดินผืนนี้ถูกโกงจากนายทุน

ด้าน พล.ต.ต.สุวิชาญ ญาณกิตติกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม กล่าวว่า หลังมีการจับกุมนายทุนเงินกู้ดอกเบี้ยโหดรายนี้อยู่ระหว่างการเร่งสอบสวนขยายผล ดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งมีประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนเข้ามาแจ้งความต่อเนื่อง ตำรวจจะได้ทำการตรวจสอบตามเอกสารหลักฐาน บางรายอาจจะไม่เข้าข่ายทำสัญญาผิดกฎหมาย จะดำเนินคดีเฉพาะที่มีการทำสัญญาเงินกู้ไม่เป็นไปตามกฎหมายกำหนด ในส่วนของผู้ที่เคยได้รับผลกระทบ ถูกบังคับคดียึดทรัพย์สิน ให้นำเอกสารหลักฐานมาพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เพื่อตรวจสอบ ว่าเข้าข่ายกระทำผิดหรือไม่ ส่วนการดำเนินการจะต้องประสานหน่วยงานเกี่ยวข้อง รวมถึง ปปง. ร่วมตรวจสอบเส้นทางการเงิน หรือบางรายจะต้องดูในรายละเอียดว่าในส่วนของคดีอาญาสามารถรื้อฟื้นคดีได้หรือไม่ ทั้งนี้จะต้องมีการพิจารณาเป็นรายไป ยืนยันว่าตำรวจจะทำหน้าที่ตรงไปตรงมาให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่าย ฝากประชาชน ที่ได้รับความเดือดร้อน เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์กับตำรวจเร่งด่วน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image