นักวิจัย มจธ.ผุด ‘ชุดตรวจขนาดเล็กคัดกรองผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวี’ ตรวจง่าย-รู้ผลใน 15 นาที

แนวทางหนี่งที่ช่วยชะลอการแพร่ระบาดของไวรัสเอชไอวี (HIV) คือการตรวจคัดกรอง และวินิจฉัยเชื้อเอชไอวี รวมทั้ง โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ เนื่องจากโรคเหล่านี้มักไม่มีอาการที่จำเพาะเจาะจง และการติดเชื้อโรคทางเพศสัมพันธ์ จะเพิ่มความเสี่ยงในการแพร่ และติดเชื้อเอชไอวีสูงขึ้น 3-11 เท่า ดังนั้น การวินิจฉัยโรคที่ถูกต้องแม่นยำจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ ปัจจุบันการตรวจโรคดังกล่าวจะทำเฉพาะในห้องปฏิบัติการในโรงพยาบาล หรือคลินิกขนาดใหญ่เท่านั้น ซึ่งเป็นกระบวนการที่ใช้เวลานาน มีค่าใช้จ่ายสูง และเข้าถึงได้ยากสำหรับผู้ที่อยู่ห่างไกล ดังนั้น การพัฒนาชุดตรวจวินิจฉัยโรคที่ใช้สารคัดหลั่งของร่างกายสำหรับการตรวจหาเชื้อ อาทิ เลือด น้ำลาย ในปริมาณน้อยมาก ใช้ระยะเวลาในการวินิจฉัยน้อย แต่แม่นยำสูงนี้ มีส่วนสำคัญในการช่วยป้องกันการติดเชื้อ และการแพร่ระบาดของเชื้อเอชไอวีในประชากร

น.ส.ทัศนีย์วรรณ ลักษณะโสภิณ อาจารย์จากหลักสูตรวิศวกรรมชีวภาพ คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ผู้ได้รางวัลระดับดีเด่น ประเภทผลงานวิทยานิพนธ์ งาน “วันนักประดิษฐ์” ประจำปี 2560 เรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีระบบของไหลจุลภาคสำหรับการตรวจวินิจฉัยโรคในพื้นที่ทุรกันดาร กล่าวว่า ชุดตรวจอย่างง่ายสำหรับตรวจวัดปริมาณแอนติบอดี้ต่อเชื้อเอชไอวี และซิฟิลิสในเลือดโดยใช้เทคนิคการทดสอบการคัดกรองแอนติบอดีบนไมโครฟลูอิดิกชิพ ถูกพัฒนาขึ้นโดยใช้เทคโนโลยีระบบของไหลจุลภาคที่มีราคาถูก พกพาง่าย ใช้วัสดุที่ผลิตได้ง่าย แต่ให้ผลการตรวจที่แม่นยำสูงเช่นเดียวกับการตรวจในห้องปฏิบัติการของโรงพยาบาล ทั้งยังตรวจคัดกรองโรคได้มากกว่า 1 โรคในเวลาเดียวกันจากเลือดปริมาณน้อย (< 2 ไมโครลิตร) และให้ผลตรวจภายในเวลาเพียง 15 นาที อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายต่อการตรวจต่อครั้งในการเปลี่ยนแผ่นทดสอบประมาณ 200-300 บาท นับว่ายังมีราคาสูงสำหรับประชาชนที่มีรายได้น้อย

ชุดตรวจนี้พัฒนาให้ใช้งานง่าย คล้ายคลึงกับเครื่องตรวจน้ำตาลในเลือด หรือตรวจเบาหวานที่บุคคลทั่วไปตรวจได้ด้วยตนเอง โดยการออกแบบให้ส่วนต่อประสานกับผู้ใช้ไม่ซับซ้อน ไม่มีขั้นตอนที่ยุ่งยาก และอุปกรณ์มีขนาดเล็ก เชื่อมต่อกับโปรแกรม หรือแอพพลิเคชั่น ในสมาร์ทโฟนที่ช่วยในการเก็บข้อมูลด้านสาธารณสุขของภาครัฐได้อีกด้วย โดยชุดตรวจนี้ได้ทดสอบการใช้งานจริง โดยพยาบาล และเจ้าหน้าที่คลินิกในประเทศรวันดา และให้ผลการทดสอบที่แม่นยำใกล้เคียงกับชุดทดสอบอื่นๆ รวมถึง การอ่านผลการทดสอบที่ได้ เป็นไปโดยง่าย และสะดวกรวดเร็ว ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องมีความรู้ หรือทักษะการใช้เครื่องมือในห้องปฏิบัติการมาก่อน ชุดทดสอบนี้พัฒนา และปรับปรุงต่อให้ตรวจโรคอื่นๆ ที่เป็นโรคไม่ติดต่อได้ ด้วยการเปลี่ยนแอนติเจน และแอนติบอดี้ของชุดตรวจ เป็นชนิดที่จำเพาะเจาะจงต่อโรคนั้นๆ

Advertisement

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image