นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า เพื่อให้นักลงทุนและเอกชนจากต่างประเทศรับทราบถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับนโยบายด้านเศรษฐกิจของประเทศไทย มาตรการช่วยเหลือและสนับสนุนต่างๆ ที่รัฐบาลเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง เช่น การให้สิทธิประโยชน์ทั้งทางด้านภาษีและไม่ใช่ภาษีจากสำนักงานส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) รวมทั้งมุมมองการส่งเสริมด้านตลาดทุน ดังนั้น ในวันที่ 22-23 มิถุนายนนี้ ตลท.จะจัดงาน “Thailand’s Big Strategic Move” โดยได้รับเกียรติจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ร่วมให้ข้อมูลนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศที่จะเข้าร่วมงานกว่า 500 ราย ซึ่งจำนวนนี้เป็นนักลงทุนต่างประเทศกว่า 100 ราย ซึ่งรวมถึงเอกชนต่างประเทศในภาคการเงินที่มีสำนักงานย่อยในประเทศไทยด้วย เช่น เอดีบีและธนาคารต่างประเทศ
นอกจากนี้ ยังมีภาคเอกชนขนาดใหญ่ร่วมให้ข้อมูลภาพรวมธุรกิจด้วย เช่น กลุ่ม ปตท. บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กลุ่มธนาคารนำโดยนายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ และกรรมการบริหารธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กลุ่มสื่อสารนำโดยนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) และนายฐาปน สิริวัฒนภักดี กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) โดยการจัดงานครั้งนี้จะมีทั้งให้เอกชนและนักลงทุนต่างประเทศเข้าฟังในงานสัมมนาใหญ่และการจัดการพูดคุยกลุ่มย่อยระหว่างเอกชนต่างประเทศกับภาครัฐ
ทั้งนี้ ภายหลังงานเสร็จสิ้นคาดหวังว่าผลดีจะไม่เกิดขึ้นเฉพาะตลาดทุนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการลงทุนในภาคเศรษฐกิจจริง ซึ่งที่ผ่านมาพบว่าตลาดหุ้นไทยยังน่าสนใจเนื่องจากในไตรมาสที่ 1 บริษัทจดทะเบียนไทยสร้างกำไรได้มากกว่า 2.8 แสนล้านบาท หากกำไรทั้งปี 2560 เป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะทำได้ 1 ล้านล้านบาท จึงอาจจะได้เห็นการปรับเพิ่มประมาณการกำไรจดทะเบียนจากนักวิเคราะห์
นายภากร ปีตธวัชชัย รองผู้จัดการ ตลท. เปิดเผยว่า จากการติดตามข้อมูลพบว่าเศรษฐกิจไทยมีสัญญาณบวกในทุกๆ เครื่องยนต์เศรษฐกิจ ทั้งการส่งออกในไตรมาสที่ 1/2560 ที่กลับมาเป็นบวกทั้งตลาดจีน ซีแอลเอ็มวี ยุโรปและสหรัฐ การท่องเที่ยวจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้าไทยยังเติบโตต่อเนื่อง การนำเข้าเครื่องจักรในอุตสาหกรรมการผลิตกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง แต่ดัชนีหุ้นไทยยังคงปรับตัวเพิ่มขึ้นจากต้นปีไม่มากนัก เป็นผลจากปี 2559 ตลาดหุ้นไทยปรับตัวแรงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก ทำให้ในขณะนี้นักลงทุนต่างชาติจึงเข้าไปลงทุนในตลาดที่ปีก่อนหน้ายังปรับตัวขึ้นไม่มากนัก ส่วนตัวมองว่ามีความเป็นไปได้ว่าเมื่อตลาดต่างๆ ปรับขึ้นมาในระดับเดียวกับหุ้นไทยแล้ว ในช่วงครึ่งปีหลังจะมีเม็ดเงินต่างประเทศเข้ามาลงทุนในหุ้นไทยอีกครั้ง
สำหรับภาวะการลงทุนในช่วงนี้พบว่า นักลงทุนในประเทศหรือนักลงทุนรายย่อยมีปริมาณการซื้อขายที่ลดลงจากปีก่อน โดยมีสัดส่วนการซื้อขายที่ 49.43% จากปีก่อนหน้าอยู่ที่ 53.81% แม้จะมีนักลงทุนต่างประเทศเข้ามาซื้อขายต่อวันเพิ่มขึ้นเป็น 29.20% จากปีก่อนหน้าอยู่ที่ 25.57% แต่การซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติยังไม่มากนัก โดยตั้งแต่ต้นปีถึง 11 พฤษภาคม นักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิที่ 8,350 ล้านบาท
