หนังภาคต่อหรือที่เดี๋ยวนี้เรียกเป็นภาษาธุรกิจว่า แฟรนไชส์ มักถูกชำแหละมาเป็นระยะว่า ส่วนใหญ่แล้วไม่น่าดูเท่าภาคแรก สร้างแล้วพังพาบเสียมากกว่า เหลือหลุดรอดมาให้กล่าวขวัญเป็นตำนานได้ไม่กี่เรื่อง
และบรรดาจำนวนไม่กี่เรื่องเหล่านั้น ต้องจากต้องคิดเนื้อหากันหัวแทบแตก ไม่ให้ซ้ำหรือปวกเปียกจนแม้ลงทุนทำฉากใหญ่โครมครามก็ช่วยเอาหน้ารอดไม่ได้แล้ว จินตนาการที่คาดไม่ถึงจึงสำคัญ
อย่างเช่นพ่อมดน้อย ‘แฮรี พอตเตอร์’ ซึ่งมีเนื้อพิศดารอุ้มอยู่ หากเมื่อคิดให้เป็นภาพเคลื่อนไหวแล้ว ฉากที่คาดไม่ถึงซึ่งให้ภาพที่คาดไม่ถึง จึงเป็นรสชาติที่ต้องติดตามอย่างแท้จริง
สลัดคาริบเบียน ‘ไพเรทส์ ออฟ เดอะ คาริบเบียน’ (Pirates of the Caribbean) ก็เช่นเดียวกัน นอกจากหาดทรายขาวสะอาดกับท้องทะเลสีครามเข้มกระจ่างตา ให้ความรู้สึกถึงการผจญภัยลึกล้ำแล้ว แต่ละฉากแต่ละตอนยังให้อารมณ์สนุกสนานสุดยอด เหล่าเงือกที่แสนจะตื่นตา ทัพปีศาจน่าสยองที่แสนจะตื่นใจ การชุมนุมของเหล่าสลัดในมุมลับของโลก อสุรกายจ้าวสมุทรที่อานุภาพคาดไม่ถึง กับฝีมือการสรรค์สร้างบรรดาตัวละครหน้าตาประหลาดเกินความคิดสามัญ ฯลฯ นำพาจินตนาการครั้งเยาว์วัยของผู้ชมบรรเจิดขึ้น จนต้องถอนหายใจอิ่มเอม
นี่คืองานบันเทิง
แทบไม่ต้องพูดถึงความสามารถเยี่ยมยงของนักแสดงนำ จอห์นนี เดปป์ ที่รังสรรค์บุคลิกของกัปตัน ‘แจ็ค สแปโรว์’ กระทั่งกลายเป็นบทในความทรงจำของโลกภาพยนตร์บทหนึ่งไปแล้ว
อาจกล่าวได้ว่า หนังสลัดคาริบเบียน ก็คือหนังกัปตันแจ็ค สแปโรว์นั่นเอง
เว้นแต่การคิดเรื่องให้เข้มข้นดึงดูดผู้ชมให้ได้เป็นหลักแล้ว ในเรื่องราวนั้นต้องมีเหล่าตัวละครที่จับผู้ชมให้ติดหนึบได้ด้วย เมื่อมีตัวเอกที่เก่งกล้าสามารถซึ่งเกิดมาพร้อมดวงชะตากระพร่องกระแพร่ง ก็ต้องมีผู้ร้ายที่ดูจะข่มตัวเอกลงได้ไม่ยาก ชวนให้ร้อนใจว่าจะเอาตัวรอดได้อย่างไร
กัปตันเรือฟลายอิ้ง ดัชท์แมน ‘เดวี่ โจนส์’ (บิล ไนฮี) ที่เป็นหนึ่งในตัวละครซึ่งผู้ชมจะลืมหน้าตาไม่ลง ผู้ตามทวงวิญญาณกัปตันแจ็คพร้อมคราเค่นอสุรกายท้องน้ำมหึมา ‘บาร์บอสซา’ (เจฟฟรี รัช) ผู้ตามล้างตามเช็ดเรือแบล็คเพิร์ล ที่แค่เห็นหน้าก็ชวนแขยง ‘แบล็คเบียร์ด’ (เอียน แมคเชน) กัปตันเรือควีน แอนส์ รีเวนจ์ ที่แสนเหี้ยมเกรียม สามารถเอาชีวิตลูกสาวแลกกับหนทางได้น้ำพุแห่งวัยเยาว์
คราวนี้จึงต้องได้นักแสดงระดับตุ๊กตาทองออสการ์ ฆาเบียร์ บาร์เดน จากบทนักฆ่าโรคจิตใน ‘โน คันทรี ฟอร์ โอลด์ เม็น’ (2550) ที่แม้เห็นในหนังยังน่ากลัวจนขนลุก มาเป็น ‘ซาลาซาร์’ วิญญาณร้ายสุดสยองที่โผล่มากำจัดสลัดให้หมดโลก จนกัปตันแจ็คต้องบุกบั่นหาตรีศูลโพไซดอนซึ่งมีอิทธิฤทธิ์คุมท้องสมุทรมารับมือ เป็นคู่ปรับที่ฟาดฟันกันให้ผู้ชมระทึกกระทั่งฉากสุดท้าย แค่เห็นหนังตัวอย่างทัพปีศาจวิ่งกรูเข้าประจัญบานบนผืนน้ำก็ต้องตั้งตารอแล้ว
ที่พิเศษแถมเข้ามาอีก หลังจาก คีธ ริชาร์ด แห่ง โรลลิง สโตน เคยมาเป็นกัปตันทีคพ่อกัปตันแจ็คแล้ว ก็คือตำนานสี่เต่าทอง คนดัง พอล แมคคาร์ทนี จะมาปรากฏกายด้วย
แต่จะมาแบบไหน บทอะไร ยังถูกปิดเป็นความลับ เพียงแย้มๆ ให้คอหนังกระหายว่า จะเป็นบทและฉากที่ประทับใจแน่นอน
สลัดคาริบเบียน 5 ‘เด้ด เม็น เทลล์ โน เทลส์’ (Dead Men Tell No Tales) หรือ ‘ซาลาซาร์’ส รีเวนจ์’ (Salazar’s Revenge) จะมหัศจรรย์พันลึกได้ขนาดไหน เชื่อว่าไม่ต้องชวน ทั้งขาจรขาประจำก็รอกันมั่นเหมาะแล้ว.