เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 22 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครอบครัวของ ร.ต.ท.นภาดล วงษ์บันฑิต รอง สวป.สภ.เมืองสุพรรณ ที่ได้ถูกแอนนา รีส ขับรถชนเมื่อปี 2558 ได้เปิดเผยความรู้สึก หลังรับทราบข่าวว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา แอนนา รีส เมาแล้วขับ หลังพอทราบข่าว นางฉันทนา วงษ์บัณฑิต ภรรยาของ ร.ต.ท.นภาดล วงษ์บัณฑิต หรือหมวดนะจ้ะ กล่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า เหตุการณ์ที่แอนนา รีส ขับรถชนสามีของตนจนเสียชีวิตนั้น ผ่านมาจะครบ 2 ปีแล้ว ใกล้วันทำบุญครบรอบวันเสียชีวิตของสามี ตนยังทำใจไม่ได้ พยายามลืมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ก็ยังทำไม่ได้ เพราะสามีเป็นคนรักครอบครัว เป็นเสาหลักของครอบครัว ตอนนี้ภาระทุกอย่างตนก็ต้องเป็นคนรับผิดชอบคนเดียว ตนมีอาชีพเป็นพยาบาลอยู่ที่ รพ.ศูนย์เจ้าพระยายมราช พอสูญเสียสามีไป ตนก็ทำงานหนักขึ้น เพื่อเลี้ยงลูกสาว 2 คน ตอนนี้ก็อยู่กันตามลำพัง ที่ผ่านมาแอนนา รีส และครอบครัวก็มีการติดต่อกันมาโดยตลอด และรับผิดชอบตามด้านคดีด้วยดี ส่วนตนก็อยากพูดแค่ว่า ไม่อยากให้แอนนา รีส ดื่มสุราและเกิดเรื่องราวแบบนี้ขึ้นอีก เพราะตอนเกิดเหตุการณ์ที่แอนนา รีส ขับรถชนสามีตนจนเสียชีวิตนั้น ตนก็ไม่รู้ว่าเค้าดื่มสุราหรือไม่ แต่มันก็เป็นสิ่งที่ผ่านมาแล้ว ตนก็ไม่อยากไปพูดถึงอีก ก็แค่อยากฝากถึงเรื่องกรณีเมาแล้วขับว่า หากรู้ว่าตัวเองเมา ก็อย่าขับรถ จะเป็นอันตรายต่อผู้อื่น
ด้าน นางสาวจิรา ตรัสพันธ์ น้องสาว ของ ร.ต.ท.นภาดล กล่าวทั้งน้ำตาว่า ทราบเหตุการณ์แอนนา รีส ก็รู้สึกตกใจ และไม่คิดว่าจะมามีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก เนื่องจากเมื่อเหตุการณ์วันที่ 26 มิ.ย.ปี 2558 ที่ผ่านมา พี่ชายของตนคือ ร.ต.ท.นภาดล ได้ถูกแอนนา รีส ขับรถชน ในขณะที่พี่ชายตนได้จอดรถนอนอยู่บริเวณริมถนนจุดพักรถ ที่ถนนคู่ขนานมอเตอร์เวย์ กม.1 แขวงประเวศ เขตประเวศ กทม. พื้นที่ สน.ประเวศ ทำให้พี่ชายตนที่นอนหลับพักอยู่ในรถ เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที โดยในเหตุการณ์ครั้งนั้น เราไม่รู้ว่าแอนนา รีส เมาแล้วขับหรือไม่ ซึ่งตนและครอบครัวก็ไม่อยากพูดหรือไปรื้อฟื้นถึงเรื่องเดิม เพราะมันผ่านมาแล้ว และทุกวันนี้ครอบครัวก็ยังเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะขาดเสาหลักของครอบครัวไป นึกถึงขึ้นมาทุกครั้งก็ร้องไห้ตลอด ปัจจุบันก็เอารูปคอยติดตัวและเปิดดูทุกวัน พี่ชายเป็นคนน่ารัก เป็นที่รักของทุกคน และปฏิบัติหน้าที่ตำรวจได้อย่างดี กวดขันในเรื่องเมาแล้วขับมาโดยตลอด แต่ต้องมาจบชีวิตลงทั้งที่อนาคตยังไปได้อีกไกล โดยตลอดเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา ที่สูญเสียพี่ชายไป ทางด้านแอนนา รีส ก็มีการติดต่อกับครอบครัวตนมาโดยตลอด และก็มีการบวชชีพราหมณ์ให้ก็จะส่งรูปมาให้ดูตลอด บอกว่าเสียใจมาก และรู้สึก สำนึกผิดกับสิ่งเกิดขึ้น ทุกวันนี้ครอบครัวเราสูญเสียคนที่รักไปอย่างไม่มีวันกลับ จึงไม่อยากให้แอนนา รีส ได้มีพฤติกรรมเแบบนี้อีก ครั้งนี้โชคดีที่ไม่มีใครเป็นอะไร จนถึงต้องสูญเสียชีวิต ก็อยากให้เรื่องราวพี่ชายตนเป็นอุทาหรณ์ จะได้ไม่มีเหตุการณ์เรื่องราวสูญเสียเกิดขึ้น
