ผบช.ภาค9 เร่ง 2 คดีดังฆ่านักธุรกิจ-ตามล่า ขยายผลขบวนการค้ายาบ้า 4 ล้านเม็ด

เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่ห้องประชุม บก.ภ.จว.ตรัง พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ผบช.ภ.9 เรียกประชุม ตร.ชุดสืบสวน ภ.9 พล.ต.ต.โชติ ชัยชมพู ผบก.สส.ภ.9 และชุดสืบสวนรุดลงพื้นที่ จ.ตรัง เรียกประชุมเครียด ตร.ภ.จว.ตรัง เพื่อเร่งรัดติดตามคดีสำคัญในพื้นที่ จ.ตรัง 2 คดี โดยมี พ.ต.อ.นุกูล ไกรทอง รอง ผบก.ภ.จว. ตรัง และเจ้าหน้าที่ ตร.ที่เกี่ยวข้องให้ข้อมูลแถลงความคืบหน้าต่อผู้บังคับบัญชา

พล.ต.ท.สาคร เผยว่า สืบเนื่องจากว่าในพื้นที่ จ.ตรัง มีคดีสำคัญถึง 2 คดี เป็นอุกฉกรรจ์ และคดีสะเทือนขวัญ ซึ่งประชาชนได้ให้ความสนใจเป็นอย่างมากในขณะนี้ โดยในครั้งนี้ ได้นำกำลังจากชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 9 มาติดตามทั้ง 2 คดีนี้คดี โดยความคืบหน้าคดีคดีฆ่า นายศรณกฤษณ์ หรือกฤษณ์ เมืองมณี อายุ 46 ปี นักธุรกิจ ชาวอ.วังวิเศษ จ.ตรัง เหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 เม.ย.60 เวลา 19.00 น. ณ วัดบางคราม ม.4 ต.อ่าวตง อ.วังวิเศษ โดยตำรวจตั้งเป้าไว้หลายประเด็น แต่พุ่งเป้าไปที่เรื่องการเมืองท้องถิ่น ล่าสุดรอผลพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ และสืบสวนเพิ่มหาข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนอีกคดี เกิดขึ้นที่อ.รัษฎา ฆ่า น.ส.สุ (ขอปกปิดนาม) อายุ 21 ปี ชาว ต.เขาไพร อ.รัษฎา จ.ตรัง เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 พ.ค.60 โดยศพถูกฆ่าและมาพบลอยน้ำอยู่ในอ่างน้ำบ้านคลองไพ แพทย์ชันสูตรพบร่องรอยคล้ายถูกบีบรัดบริเวณลำคอ

พล.ต.ท.สาคร เผยถึงความคืบหน้าล่าสุดว่าทั้งสองคดีมีความคืบหน้าไปมากแล้ว ชุดสืบสวน ภ.จว.ตรัง ร่วมกับชุดสืบสวน ภ.ภาค 9 ได้ร่วมกันสืบสวนสอบสวน และเตรียมที่จะออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองคดี แต่ในขณะนี้ยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้เนื่องจากเกรงว่าจะเสียรูปคดีได้ ในส่วนของการจับกุมผู้ต้องหาพร้อมขอกลางยาบ้า 4 ล้านเม็ด ทางชุดปราบปรามได้ติดตามพฤติกรรมของผู้ต้องหามาอย่างต่อเนื่อง และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ในที่สุด ซึ่งจะใช้มาตรการยึดทรัพย์ผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมและเกี่ยวพันกับการค้ายาเสพติดทั้งขบวนการ

ทั้งนี้จังหวัดตรังเป็นพื้นที่พักยาเสพติด เพื่อเตรียมส่งไปในจังหวัดชายแดนภาคใต้และประเทศเพื่อนบ้าน จึงได้กำชับให้ทุกสถานีตำรวจในสังกัด บก.ภ.9 ให้ทำงานร่วมกับประชาชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านยาเสพติด เหตุการณ์ความไม่สงบ และอาชญากรรมทุกชนิดที่เกิดขึ้น ในปัจจุบันประชาชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน มีส่วนช่วยเหลือในการจับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดได้เป็นอย่างมาก ดังนั้นทุกสถานีตำรวจต้องทำงานร่วมกันหากพื้นที่ใดไม่สามารถทำงานร่วมกับประชาชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ได้ทางสำนักงานตำรวจภูธรภาค 9 ก็จะเปลี่ยนตัวผู้ที่สามารถทำงานร่วมกันได้ไปแทนที่.

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image