รพ.ตำรวจ เช็กความพร้อมวงจรปิด 300 ตัว รปภ.เข้ม “หมอใหญ่” วอนอย่าเอา รพ.เป็นตัวประกัน

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 23 พฤษภาคม ที่โรงพยาบาลตำรวจ(รพ.ตร.) พล.ต.ท.นพ.วิฑูรย์ นิติวรางกูร แพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ พร้อมด้วย พล.ต.ต.วีระ จิรวีระ ผบก.อำนวยการ โรงพยาบาลตำรวจ นำสื่อมวลชน ตรวจดูมาตรการรักษาความปลอดภัย ภายในโรงพยาบาลตำรวจ ทั้งศูนย์รักษาความปลอดภัย,อาคารอำนวยการโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนที่มาใช้บริการ หลังจากเมื่อวานนี้เกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดห้อง “วงษ์สุวรรณ” ห้องรับรองนายทหารสัญญาบัตร ชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก

พล.ต.ท.นพ.วิฑูรย์ กล่าวว่า ปกติโรงพยาบาลตำรวจมีมาตรการรักษาความปลอดภัยอยู่แล้ว เนื่องจากที่ผ่านมาเคยมีการชุมนุมเกิดขึ้นบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งโรงพยาบาล มีมาตรฐานความปลอดภัยสูง แต่ก็ไม่ถึงกับเคร่งครัดมาก แต่คงไม่ถึงขั้นตรวจสอบสแกนกระเช้าหรือแจกันดอกไม้ที่นำมาเยี่ยมคนป่วย เนื่องจากโรงพยาบาลต้องอำนวยความสะดวกให้กับผู้ป่วยและญาติที่มาเยี่ยมคนไข้ อย่างไรก็ตาม หลังจากเกิดเหตุระเบิดเมื่อวานนี้ ตนได้มีการกำชับให้กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องสอดส่องดูแล ตั้งแต่เรื่องการดูแลรักษาความปลอดภัยจุดเข้า-ออก ทั้งในและเวลานอกราชการ มีการประสานกับศูนย์วิทยุ ตรวจสอบกล้องวงจรปิดทั้งโรงพยาบาลรวมประมาณ 300 ตัว โดยเป็นการติดตั้งในจุดสำคัญ 190 ตัว และจุดอื่นๆอีกทั่วบริเวณกระจายอยู่ตามอาคารต่างๆ พร้อมทั้งเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบถังขยะ เพื่อป้องกันคนร้ายนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ มีการเฝ้าระวังทั้งห้องผู้บังคับบัญชา ห้องวีไอพี ห้องฉุกเฉินห้อง ห้องโอพีดี เป็นต้น อย่างไรก็ตามตนมองว่าโรงพยาบาลไม่น่าจะเป็นสถานที่ที่คนร้ายใช้เป็นเป้าหมายในการก่อเหตุ เพราะมีคนป่วยอยู่เป็นจำนวนมาก อยากวิงวอนอย่านำโรงพยาบาลมาเป็นตัวประกัน

ด้าน พล.ต.ต.วีระ จิรวีระ ผบก.อำนวยการ โรงพยาบาลตำรวจ กล่าวว่า ในรักษาความปลอดภัยภายในโรงพยาบาลมีการจัดเจ้าหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง ใช้เจ้าหน้าที่จำนวน12 นาย กระจาย12 จุด ตามพื้นที่ล่อแหลมต่างๆ ทั้งบริเวณเข้า ออก อาคารผู้ป่วย และเพิ่มเจ้าหน้าสายตรวจอีก 2 นาย รวม 14 นาย ต่อวัน มั่นใจสามารถรักษาความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนที่มาใช้บริการได้ ซึ่งปกติโรงพยาบาลตำรวจแล้วก็มีการกำชับและเพิ่มความเข้มข้นในการตรวจตราอยู่แล้ว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image