เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเข้ากราบพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง มีประชาชนจากทุกสารทิศทยอยเดินทางมาตั้งแต่ช่วงเช้า ด้วยจิตใจแห่งความจงรักภักดี
นางวาสนา เพิ่มความสุข อายุ 57 ปี ข้าราชการครูจากโรงเรียนวัดพระพุทธฉาย จ.สระบุรี เดินทางมาพร้อมคณะครู นักเรียนชั้นอนุบาล 1 – ประถม 6 และผู้ปกครอง จำนวน 120 คน กล่าวว่า ทางโรงเรียนได้ถือโอกาสช่วงเปิดเทอมจัดกิจกรรมทัศนศึกษาพานักเรียนมากราบพระบรมศพ ด้วยความต้องการที่จะเปิดโอกาสให้นักเรียนทุกคนได้ใกล้ชิดพระองค์ท่านให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยออกเดินทางมาตั้งแต่ 06.00 น. และมารอเข้าแถวช่วง 09.00 น. ใช้เวลารอไม่นานก็ได้เข้ากราบสักการะพระองค์ท่าน ซึ่งถือว่าโชคดีมากๆ
ทั้งนี้ ที่โรงเรียนได้สอนและปลูกฝังให้เด็กๆ มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สอนให้เขารู้จักและจงรักภักดี เวลาเด็กๆ เห็นพระบรมฉายาลักษณ์พระองค์ท่าน ก็จะรู้จักว่าเป็นในหลวง ร.9 อีกทั้งโรงเรียนได้รับพระมหากรุณาธิคุณ พระองค์เสด็จฯ มาทรงทอดกฐินและพระราชทานเงินกฐินให้โรงเรียนนำไปจัดสร้างอาคารเรียนเมื่อปี พ.ศ.2517 เป็นแบบ 4 ห้องเรียน
นอกจากนี้โรงเรียนยังได้น้อมนำหลักคำสอนของพระองค์มาสอนเด็กในเรื่องของเศรษฐกิจพอเพียง โดยให้นักเรียนรู้จักการออม ด้วยการเก็บเงินไว้กับสหกรณ์โรงเรียน เพื่อเสริมสร้างลักษณะนิสัยที่ดี รวมถึงให้เด็กชั้น ป.4-ป.6 ได้เป็นมัคคุเทศก์น้อย นำชมนักท่องเที่ยวภายในวัดพระพุทธฉาย ทำให้มีรายได้อีกทางหนึ่ง และเป็นการหัดให้รุ่นพี่สอนต่อรุ่นน้อง ขณะเดียวกันด้วยหน้าที่การงานได้ยึดหลักความอดทน ความรัก การแบ่งปัน และไม่เลือกที่จะช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่แบ่งแยกชนชั้น อย่างที่พระองค์ทรงช่วยเหลือประชาชนคนไทยทุกคน
นางดาพอ สมสร้อยสวัสดิ์ อายุ 42 ปี ชาวกะเหรี่ยงจากหมู่บ้านพระบาทห้วยต้ม จ.ลำพูน ที่เหมารถตู้พร้อมเพื่อนบ้านรวม 26 คน มากันเองตั้งแต่วานนี้มาถึงท้องสนามหลวงเวลา 07.00 น. ใช้เวลาไม่นานก็ได้เข้ากราบพระบรมศพเวลา 07.30 น. กล่าวว่า ภูมิใจมากที่เกิดเป็นคนไทย เป็นลูกของพ่อหลวง ชาวกะเหรี่ยงทุกคนรักพ่อหลวงมาก นานมาแล้วท่านเคยเสด็จฯ มาหมู่บ้านของเราถึง 3 ครั้ง แล้วพระราชทานโครงการหลวงให้ชาวเขา จากที่เราทำไร่ทำนา ผลผลิตไม่ค่อยดี ก็ได้ปลูกพืชผักเสริม ไม่ว่าจะเป็นคะน้า หน่อไม้ฝรั่ง กะหล่ำปลี
นอกจากนี้ยังทรงพระราชทานที่ดินพร้อมกับส่งเสริมอาชีพอื่นๆ ด้วย พวกเราได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระองค์มาตลอด ตั้งแต่ในหลวง ร.9 จากไป เสียใจมากแต่ยังไม่มีโอกาสมากราบพระองค์ นี่เป็นครั้งแรกด้วยที่ได้มากรุงเทพฯ เห็นบรรยากาศแล้วก็ปลื้มใจ ถ้าตัวเองตายแทนพระองค์ท่านได้ก็อยากตายแทน และอยากให้คนไทยทุกคนรักกัน รักสามัคคี เป็นคนดีของสังคม เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ท่าน
สำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชนที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม หลังสำนักพระราชวังปิดไม่ให้ประชาชนเข้ามาภายในพื้นที่พระบรมมหาราชวัง เพื่อขึ้นกราบสักการะพระบรมศพ บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท มีจำนวนประชาชนที่ได้เข้ากราบสักการะพระบรมศพจำนวน 18,173 คน รวม 201 วัน รวมทั้งสิ้น 7,197,901 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระกุศลเป็นเงิน 3,112,340.50 บาท รวม 201 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 569,253,140.26 บาท
