ความเคลื่อนไหวทัพ “ช้างศึก” ทีมฟุตบอลทีมชาติไทยชุดใหญ่ ภายใต้การคุมทีมของ มิโลวาน ราเยวัช หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวเซอร์เบีย ซึ่งมีโปรแกรมอุ่นเครื่อง “ฟีฟ่าเดย์” กับทีมชาติอุซเบกิสถาน ที่บุนยอดกอร์ สเตเดียม กรุงทาชเคนต์ วันที่ 6 มิถุนายน ก่อนเดินทางกลับมาลงแข่งฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย กลุ่มบี นัดที่ 8 พบกับ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ที่ราชมังคลากีฬาสถาน วันที่ 13 พฤษภาคม ซึ่งทางสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ได้ประกาศรายชื่อ 35 นักเตะที่จะมาเข้าแคมป์เก็บตัววันที่ 29 พฤษภาคม เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมกับแต่งตั้ง “โค้ชโต่ย” นายศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย เป็นผู้ช่วยโค้ชทีมฟุตบอลชาติไทยนั้น
ล่าสุดโค้ชโต่ย เปิดเผยว่า ดีใจอย่างมากที่ได้มาร่วมงานกับราเยวัช และได้รับความไว้วางใจจากสมาคมฯ ที่เห็นในความสามารถให้เข้ามาช่วยเหลือทีมชาติไทย ซึ่งพร้อมที่จะเรียนรู้อยู่แล้ว หากมีอะไรใหม่ๆ ที่จะนำมาพัฒนาตัวเอง และต่อยอดไปสู่การพัฒนาระดับเยาวชนของไทยได้ ก็นับเป็นเรื่องที่คุ้มค่ามากๆ
“ทีมงานของสมาคมฯได้ประสานเข้ามาเพื่อให้เข้าไปคุยกัน ซึ่งที่ทราบก็มีตัวเลือกหลายคน ก่อนที่จะกลั่นกรองออกมา ไม่คิดว่าจะได้รับหน้าที่นี้ จึงภูมิใจอย่างมาก กับราเยวัชนั้นได้มีโอกาสคุยกัน 2-3 ครั้ง เขาเป็นโค้ชที่สุขุม ซึ่งเมื่อรวมฝีมือกับประสบการณ์ของเขา เชื่อว่าจะมีอะไรดีๆ เพิ่มเติมส่วนที่ขาดของทีมชาติ และเป็นความรู้ให้กับผมด้วย”
นายศิริศักดิ์ กล่าวต่อว่า ตอนนี้ทางสมาคมฯ และราเยวัช ยังไม่ได้มอบหมายงานอย่างชัดเจนว่าจะต้องทำหน้าที่อะไรบ้าง แต่พร้อมทำทุกอย่าง ส่วนรายชื่อนักเตะที่ประกาศออกมานั้นพอรู้จัก เพราะทำทีมแข่งในไทยลีก 1-2 มาก่อน นอกจากนี้ขอตั้งสมาธิกับการทำหน้าที่ผู้ช่วย ยังไม่คิดถึงการต่อยอดไปสู่การเป็นเฮดโค้ชทีมชาติชุดใดชุดหนึ่งในอนาคต
“แค่เป็นผู้ช่วยโค้ชทีมชาติ ก็ไม่เคยคาดคิดแล้ว ดังนั้นจึงไม่มองถึงการเป็นเฮดโค้ชชุดใดๆ ต้องการพัฒนาตัวเอง เพื่อนำไปพัฒนาระดับเยาวชนมากกว่า” โค้ชโต่ย กล่าวปิดท้าย
สำหรับประวัติของ “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย สร้างชื่อจากการคุมทีม “พญาอินทรี” ไทยฮอนด้า ลาดกระบัง เอฟซี คว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 หรือ ไทยลีก 2 ในปัจจุบัน เมื่อฤดูกาล 2016 จนได้รับรางวัลผู้ฝึกสอนกีฬาอาชีพดีเด่น ในงานวันนักกีฬายอดเยี่ยม ของการกีฬาแห่งประเทศไทย ปี 2559 ก่อนจะแยกทางกับสโมสรเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา จากผลงานที่ไม่เข้าเป้า คุมทีม 11 เกม ชนะ 3 แพ้ 8 มี 9 คะแนนในตอนนั้น
