‘วัฒนา’จวก’บิ๊กตู่’ ฉวยโอกาสโยนบาป ปชช. พูดเลือกตั้งต้องเลื่อน หากบ้านเมืองไม่สงบ

แฟ้มภาพ

เมื่อวันที่ 24 พ.ค. นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊ก หัวข้อ “แผ่นดินจะดีในไม่ช้า” แสดงความเห็นทางการเมืองกรณีหลังเหตุระเบิด กับท่าทีของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ และรัฐบาล โดยระบุว่า

“ก่อนเกิดระเบิดที่ รพ.พระมงกุฎ โฆษก คสช.ได้ออกมาตอบโต้นายกยิ่งลักษณ์ว่า 3 ปีของการยึดอำนาจ คสช. ได้ทำให้บ้านเมืองสงบ แต่ระเบิดที่เกิดขึ้นก็ได้ประจานคำตอบดังกล่าว หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า เป็นการวางระเบิดที่มีลายเซ็นเพราะเกิดขึ้นในโรงพยาบาลของทหารกลางกรุงเทพมหานคร ห้องวงษ์สุวรรณที่ถูกระเบิดอยู่ในโซนวีไอพีที่มดยังเดินผ่านยาก ยิ่งไปกว่านั้นรอง นรม. ฝ่ายความมั่นคง ซึ่งนามสกุลตรงกับชื่อห้องที่ต้องเข้าผ่าตัดกลับเลือกใช้โรงพยาบาลเอกชนแทน” นายวัฒนาระบุ

และว่า “ประชาชนส่วนหนึ่งจึงเห็นว่าเป็นการทำกันเองเพื่อผลทางการเมือง เพราะห้องวีไอพีอื่นที่อยู่ใกล้กัน เช่น ห้องติณสูลานนท์ หรือห้องยงใจยุทธ ล้วนปลอดภัย แถมกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งในบริเวณนั้นทั้ง 13 ตัวก็พร้อมใจกันขัดข้อง ส่วนโฆษกรัฐบาลที่เคยปากเปราะทุกครั้ง เช่น เกิดระเบิดที่ศาลพระพรหมหรือภาคใต้ที่ควันยังไม่ทันจางก็โทษนายกทักษิณแต่ครั้งนี้กลับสงบปากสงบคำ ที่แปลกคือคนของพรรคการเมืองหนึ่งกลับออกมาทำหน้าที่แทนด้วยการโทษกลุ่มการเมืองเก่าที่เสียประโยชน์เป็นคนทำเพื่อดิสเครดิต คสช. โดยก่อนหน้านี้อดีตเลขาธิการของพรรคนี้ได้ออกมาสนับสนุนให้หัวหน้า คสช. เป็นนายกต่อไปอีกสมัย จนทำให้ประชาชนคิดว่าพรรคนี้เป็นสาขาของ คสช. จึงถือโอกาสนี้สร้างผลงานเผื่อ คสช. จะโยนเศษเนื้อเน่าๆ มาให้
เหตุระเบิดที่เกิดขึ้นยังแสดงถึงวิสัยทัศน์และประสิทธิภาพของรัฐบาล ในการรับมือกับการก่อการร้ายที่เน้นการก่อวินาศกรรมมากกว่าการทำสงครามในรูปแบบ ดังที่เกิดใน รพ. พระมงกุฎ ชายแดนภาคใต้ หรือที่เมืองแมนเชสเตอร์ ดังนั้น เรือดำน้ำหรือรถถังที่ดิ้นรนซื้อมาด้วยเงินภาษีของประชาชนจึงมีประโยชน์น้อยกว่ากล้องวงจรปิดเพราะป้องกันการก่อการร้ายไม่ได้ นอกจากนี้กำลังเจ้าหน้าที่ควรนำมาใช้ป้องกันเหตุร้ายมากกว่าใช้ไปคุกคามประชาชนที่เห็นต่าง แต่ที่แย่ไปกว่านั้นคือท่าทีของ นรม. ที่ไม่เคยแสดงความรับผิดชอบแต่กลับฉวยโอกาสจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยให้สัมภาษณ์ทำนองว่า “การเลือกตั้งอาจต้องเลื่อนหากบ้านเมืองไม่สงบ” ทั้งที่เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาลที่มีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน เมื่อทำหน้าที่ไม่ได้ก็ควรออกไปแต่กลับโยนบาปให้กับประชาชน นิสัยถาวรแบบนี้ใครสั่งใครสอน ไปเรียนจากไหนมา”

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image