ป.ป.ส.-สภาเกษตรฯ จับมือ แก้ปัญหายาเสพติด สุวพันธุ์ เผย 2 เดือนจับยาบ้านับล้านเม็ด ทลายเครือข่ายบน

ป.ป.ส.-สภาเกษตรฯ จับมือ แก้ปัญหายาเสพติด คุย 2 เดือนจับยาบ้านับล้านเม็ด ทลายเครือข่ายระดับบน

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 24 พ.ค. ที่ห้องแกรนด์ ไดมอนด์ บอลรูม อาคารอิมแพ็ค ฟอรั่ม เมืองทองธานี จ.นนทบุรี นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมว.ยุติธรรม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดแห่งชาติ (ผอ.ศอ.ปส.) เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อสร้างหมู่บ้าน ชุมชนมั่นคง ปลอดภัยยาเสพติด ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) และสำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ พร้อมมอบนโยบายความร่วมมือในการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในหมู่บ้าน ชุมชน ตามแนวทางประชารัฐให้กับสมาชิกสภาเกษตรกรและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ กว่า 600 คน โดยมีนายศิรินทร์ยา สิทธิชัย เลขาธิการ ป.ป.ส. ว่าที่ร้อยตรีสมบูรณ์ กล้าวิกรณ์ เลขาธิการสภาเกษตรแห่งชาติ และนายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ร่วมลงนาม

นายสุวพันธุ์ กล่าวมอบนโยบายบนเวทีตอนหนึ่ง ว่า งานด้านการลดการแพร่ระบาดของยาเสพติดในชุมชน ถือเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญของงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ตนคิดว่าเราต้องมีชุมชนที่เข้มแข็งและมีภาคีเครือข่ายอาสาของภาคประชาชนในพื้นที่ที่เข้มแข็ง ซึ่งสภาเกษตรฯเป็นกำลังภาคประชาชนที่มีศักยภาพและขีดความสามารถ โดยสิ่งที่ต้องทำต่อไปในอนาคตคือทำให้การทำงานความร่วมมือในบันทึกข้อตกลงต่างๆนั้นเป็นจริงได้ในทางปฏิบัติ อย่างไรก็ตาม ตนเห็นถึงความพยายามในการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดให้ดีขึ้น รวมถึงงานด้านการอำนวยความยุติธรรมด้านอื่นที่กระทรวงยุติธรรมต้องรับผิดชอบ และต้องทำให้เกิดผลสัมฤทธิ์ โดยเฉพาะการทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากกระบวนการยุติธรรม ได้รับความป็นธรรมที่เท่าเทียม มีความเหลื่อมล้ำน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

Advertisement

นายสุวพันธุ์ กล่าวต่อว่า แนวคิดประชารัฐจะเกิดขึ้นได้จะต้องมีความร่วมือที่แนบแน่นและมีเครือข่ายที่กว้างขวางเข้มแข็ง และการขับเคลื่อนการทำงานได้อย่างแท้จริง ไม่ใช่มีเพียงตัวกระดาษหรือคำพูดเพราะที่สวนงาม ตนเห็นว่าทุกเรื่องต้องนำไปสู่การปฏิบัติ อีกทั้ง ต้องให้ประชาชนเป็นศูนย์กลางของการให้บริการของการทำงาน ตระหนักถึงประโยชน์และสิทธิของประชาชนที่จะได้รับเป็นที่ตั้ง ซึ่งงานเหล่านี้หน่วยงานต่างๆในกระทรวงยุติธรรมไม่สามารถทำได้เพียงลำพัง จึงต้องได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงมหาดไทย (มท.) สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) หรือกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เป็นต้น

“การป้องกันและปราบปรามาเสพติดถือเป็นวาระแห่งชาติ เกิดขึ้นทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะที่เป็น ผอ.ศอ.ปส. จึงถือว่าศูนย์อำนวยการนี้เป็นการทำงานแบบบูรณาการ ผมขอเน้นย้ำว่าการขับเคลื่อนแก้ไขทุกปัญหาไม่สามารถที่จะบรรลุเป็นรูปธรรมได้รวดเร็ว ถ้าเราไม่ขับเคลื่อนงานแบบบูรณาการและร่วมมือกับทุกภาคส่วน เราจะต้องไม่แข่งขันหรือแย่งงานกัน แต่ต้องร่วมมือกันเพื่อให้เกิดผลสำเร็จ เพื่อให้ ศอ.ปส. เดินไปอย่างมีประสิทธิภาพ” นายสุวพันธุ์ กล่าว

Advertisement

รมว.ยุติธรรม กล่าวด้วยว่า ผลงานด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เราสามารถยึดยาเสพติดได้เป็นล้านเป็นแสนเม็ด จับเครือข่ายสำคัญตั้งแต่ระดับบนถึงระดับกลางได้หลายเครือข่าย ซึ่งถือเป็นความสำเร็จ และทำให้สังคมเห็นว่าฝ่ายบังคับใช้กฎหมายในเรื่องยาเสพติดสามารถทำงานได้อย่างเห็นผล นอกจากเรื่องการปราบปรามแล้ว ยังมีมิติอื่นอีกอย่างการบำบัด และการป้องกัน ซึ่งต่างประเทศเขาสนใจในกลยุทธิ์นี้อย่างมาก ทั้งนี้ เราต้องมีการปรับปรุงกฎหมายให้เหมาะสม ซึ่งกระทรวงยุติธรรมกำลังดำเนินการอยู่ และจะต้องมีการทำความเข้าใจ สร้างการรับรู้ให้กับประชาชนทั่วประเทศด้วย ดังนั้น ภาคีเครือข่ายจึงมีความสำคัญอย่างมาก โดยหวังว่าการทำงานกับสมาชิกสภาเกษตรฯจะมีความเข้มแข็งขึ้น เราจะได้มีเครือข่ายที่มาช่วยดูงานป้องกันยาเสพติดในกลุ่มเด็ก เยาวชน และสมาชิกในครอบครัว อีกทั้ง จะได้มาช่วยกันดูให้เป็นรูปธรรมในงานด้านการอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชนได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์รอบด้าน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image