เอกชนต่างชาติ30รายจัดแถวลงทุนไทย รับม.44 ปลดล็อกอีอีซี

นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) กล่าวว่า หลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีได้ใช้อำนาจตาม ม.44 ปลดล็อกกฎหมายเกี่ยวกับขั้นตอนการลงทุน มั่นใจว่าจะทำให้มีภาคเอกชนตัดสินใจเข้ามาลงทุนในพื้นที่อีอีซีประมาณ 30 ราย ภายในระยะเวลา 1 ปี คือลงทุนภายในช่วงไตรมาสแรกของปี 2561 เนื่องจากเอกชนมองว่าที่ผ่านมากระบวนการขออนุญาตเพื่อลงทุนของไทยใช้เวลายาวนานและมีความซ้ำซ้อน เบื้องต้นมีเอกชน 6 รายแสดงความสนใจเข้ามาลงทุนแน่นอนแล้ว ส่วนใหญ่เป็นกิจการใน 10 กลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย อาทิ กลุ่มอากาศยาน ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ รถยนต์ไฟฟ้า อุปกรณ์การแพทย์ครบวงจร รวมถึงหุ่นยนต์และชิ้นส่วน

สำหรับการปลดล็อกลงทุนอีอีซีเพื่ออำนวยความสะดวกใน 3 เรื่อง ได้แก่ 1.ให้คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติแต่งตั้งคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ของโครงการเร่งด่วนในพื้นที่อีอีซี พร้อมกำหนดหลักเกณฑ์การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมพิเศษเพิ่มเติมจากผู้ขออนุญาต เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายพิเศษแก่คณะกรรมการผู้ชำนาญการ โดยต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จในเวลาไม่เกิน 1 ปี 2.เร่งกระบวนการและลดขั้นตอนการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (พีพีพี) และ 3.กำหนดให้ต่างชาติสามารถถือหุ้นได้เกินกว่า 50% ในกิจการหน่วยซ่อมอากาศยาน เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นบริษัทที่มีเทคโนโลยีสูงที่ไทยมีความต้องการในการต่อยอด ดังนั้นจึงต้องปรับปรุงลักษณะของผู้ได้รับใบรับรองในเขตอีอีซีเป็นพิเศษ โดยไม่ต้องดำเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการเดินอากาศเดิม

 

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image