‘มูดี้ส์’ หั่นอันดับความน่าเชื่อถือจีน อ้างเหตุวิกฤตหนี้ท่วมน่ากังวล

AFP PHOTO / Johannes EISELE

สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือมูดี้ส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของจีนลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2532 เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม จากความกังวลว่าจีนจะประสบความยากลำบากในการควบคุมหนี้ที่พุ่งสูง ในขณะที่อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจจะชะลอตัวในช่วงหลายปีข้างหน้านี้

มูดี้ส์ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือตราสารหนี้รัฐบาลระยะยาวสกุลเงินท้องถิ่นและสกุลเงินต่างประเทศของจีนลงมาอยู่ที่ A1 จาก Aa3 แต่ปรับอันดับภาพรวมของจีนดีขึ้นจาก “เป็นลบ” มาอยู่ที่ “มีเสถียรภาพ”

แถลงการณ์ของมูดี้ส์ระบุว่า การปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือสะท้อนให้เห็นการคาดการณ์ของมูดี้ส์ว่า ความแข็งแกร่งทางการเงินของจีนจะถูกกัดกร่อนอย่างมากในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้านี้ จากการมีหนี้แพร่กระจายเป็นวงกว้างในระบบเศรษฐกิจ ขณะเดียวกับที่คาดว่าอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจจะชะลอตัวลง

ยอดค้างชำระหนี้ของจีนในปีนี้พุ่งสูงมาอยู่ที่ 260 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) โดยเมื่อปลายปี 2559 กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เตือนว่า วิกฤตหนี้ในประเทศของจีนอาจเป็นอันตรายต่อเสถียรภาพการเงินโลก

Advertisement

รัฐบาลจีนหั่นประมาณการเติบโตทางเศรษฐกิจของปี 2560 มาอยู่ที่ราว 6.5 เปอร์เซ็นต์ หลังขยายตัวที่ 6.7 เปอร์เซ็นต์ในปี 2561 นับเป็นอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ชะลอตัวที่สุดนับตั้งแต่ปี 2533

แผนพัฒนาเศรษฐกิจ 5 ปีฉบับที่ 13 ของจีนที่เผยแพร่เมื่อปี 2559 ระบุว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจต่อปีเฉลี่ยอยู่ที่ 6.5 เปอร์เซ็นต์ระหว่างปี 2559-2563

แต่มูดี้ส์คาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนจะอยู่ที่ระดับใกล้เคียง 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นในช่วง 5 ปีข้างหน้า จากสาเหตุการลงทุนที่ลดลง และการลดลงอย่างรวดเร็วของจำนวนประชากรวัยทำงานและการลดลงอย่างต่อเนื่องของผลิตภาพ

ด้านกระทรวงการคลังจีนปฏิเสธการประเมินครั้งนี้โดยระบุว่า มูดี้ส์ใช้วิธีการที่ไม่เหมาะสมในการประเมินความเสี่ยงทางเศรษฐกิจ ทำให้ตีค่าความเสี่ยงและความยากลำบากที่เศรษฐกิจจีนต้องเผชิญสูงเกินไป

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image