ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด(มหาชน) หรือ ดีแทค ได้ทำหนังสือแจ้ง กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระบุว่า บริษัทย่อยของ ดีแทค คือ บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด และ บริษัท เทเลแอสเสท จำกัด ได้ยื่นข้อเสนอต่อ บริษัท ทีโอที จำกัด(มหาชน) เพื่อเข้าร่วมกระบวนการคัดเลือกคู่ค้าในการให้บริการไร้สายคลื่นความถี่ 2300 เมกะเฮิรตซ์ โดยคณะกรรมการ ทีโอที ได้มีมติเห็นชอบให้ทีโอทีดำเนินการให้มีการทำสัญญากับกลุ่มบริษัทดีแทคเป็นคู่ค้า ในการให้บริการคลื่นความถี่ 2300 เมกะเฮิรตซ์ ซึ่งกลุ่มบริษัทได้เสนอว่าจะเช่าเครื่องอุปกรณ์โทรคมนาคม รับจ้างบำรุงรักษาให้ทีโอที และรับซื้อความจุโครงข่ายร้อยละ 60 ของความจุโครงข่ายทั้งหมด
อนึ่งข้อเสนอของ บริษัท ดีแทค ไตรเน็ต จำกัด เสนอผลตอบแทนที่ให้ทีโอที จำนวนปีละ 4,510 ล้านบาท ทั้งนี้กลุ่มดีแทคจะเข้าดำเนินการเจรจารายละเอียดต่างๆในสัญญาที่เกี่ยวข้องกับทีโอที คาดว่าจะเจรจาได้ข้อยุติและทำสัญญาได้ภายในไตรมาส 4/2560
นายลาร์ส นอร์ลิ่ง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ดีแทค กล่าวว่า ดีแทคมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับหนังสือจาก ทีโอที แจ้งว่า คณะกรรมการของทีโอที ได้มีมติอนุมัติเห็นชอบให้ทีโอทีดำเนินการให้มีการทำสัญญากับกลุ่มบริษัทในการเป็นคู่ค้าให้บริการไร้สายคลื่นความถี่ 2300 เมกะเฮิรตซ์ ดังนั้น กลุ่มบริษัทฯจะเข้าดำเนินการเจรจาสัญญาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับทีโอทีต่อไป ด้วยอัตราความต้องการใช้งานดาต้าบนมือถือที่เพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน ผู้บริโภคชาวไทยจะได้รับผลประโยชน์สูงสุดในด้านคุณภาพการให้บริการไร้สายที่มีความเร็วสูง และยังเป็นการส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพตามนโยบายประเทศไทย 4.0 เพราะการที่ประเทศไทยจะสามารถก้าวสู่จุดหมายตามความต้องการใช้งานดิจิทัล และทำให้คนไทยสามารถก้าวสู่การแข่งขันได้ ประเทศไทยจำเป็นต้องเตรียมโครงสร้างพื้นฐานให้เพียงพอต่อการใช้งาน ทั้งการวางแผนและกำหนดการใช้งานคลื่นความถี่อย่างชัดเจน
