กต.เผยไม่มีคนไทยพำนักบนเกาะมินดาเนา หลังปธน.ฟิลิปปินส์ประกาศกฎอัยการศึก

(แฟ้มภาพ) นางสาว บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ

เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่นายโรดริโก ดูแตร์เต ประธานาธิบดฟิลิปปินส์ ประกาศกฎอัยการศึกที่เกาะมินดาเนาเป็นเวลา  60 วัน หลังเกิดเหตุกลุ่มทหารปะทะกลุ่มติดอาวุธว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ประสานกับสถานเอกอัครราชทูต ณ  กรุงมะนิลา เบื้องต้นทราบว่าไม่มีคนไทยพำนักอาศัยอยู่บนเกาะมินดาเนา จึงไม่มีคนไทยได้รับผลกระทบแต่อย่างใด

วันเดียวกันสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงมะนิลา ได้สรุปสถานการณ์ความไม่สงบในเมืองมาราวีในเบื้องต้น ดังนี้

เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 23 พ.ค. 2560 หน่วยงานความมั่นคงของฟิลิปปินส์ ได้แก่ กองทัพ (AFP) และตำรวจ (PNP) ได้ปฏิบัติการเพื่อจับกุมสมาชิกกลุ่มก่อการร้ายภายในประเทศ ในเมืองมาราวี (Marawi) จังหวัดลานาว เดล ซูร์ (Lanao Del Sur) บนเกาะมินดาเนา ทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ และได้เกิดการปะทะกันระหว่างทั้งสองฝ่ายในเขตเมืองมาราวี ตลอดช่วงวันที่ 23 พ.ค. และเมื่อเวลา 22.00 น. (เวลาท้องถิ่น) ปธน. ฟป. ได้ประกาศกฎอัยการศึกบนเกาะมินดาเนา ซึ่งจะมีผลบังคับใช้เป็นเวลา 60 วัน

    • รมว. กห. ฟิลิปปินส์รายงานเบื้องต้นว่า มีทหารและตำรวจเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ จำนวน 3 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนหนึ่ง ทั้งนี้ ยังไม่มีรายงานว่า มีประชาชนในพื้นที่เสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว รวมทั้งการเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บของสมาชิกกลุ่มก่อการร้าย
    • เมื่อเช้าวันนี้ (24 พ.ค.) AFP ได้ออกแถลงการณ์ว่า หน่วยงานความมั่นคงฟิลิปปินส์ ควบคุมสถานการณ์ในพื้นที่ได้ทั้งหมดแล้ว โดยกลุ่มก่อการร้ายที่ก่อความไม่สงบ มิใช่สมาชิกกลุ่ม ISIS แต่เป็นกลุ่มก่อการร้ายภายในประเทศ และในขณะนี้ มีการเผยแพร่ข่าวสารโดยกลุ่มก่อการร้ายและผู้สนับสนุนกลุ่มดังกล่าว เพื่อให้เกิดความเข้าใจผิดและความตื่นตระหนก รวมทั้งเพื่อเรียกร้องความสนใจและการสนับสนุนจากกลุ่มก่อการร้ายสากล ทั้งนี้ ตามที่ปรากฏข่าวว่า ศาลาว่าการ และ ร.พ. Amai Pakpak ในเมืองมาราวี ถูกกลุ่มก่อการร้ายยึดครองและจับตัวประกัน เป็นข้อมูลเท็จ
    • ในชั้นนี้ ไม่ปรากฏข้อมูลว่ามีคนไทยพำนักอยู่ในเมืองมาราวี หรือจังหวัดลานาว เดล ซูร์ และจากการตรวจสอบเบื้องต้น ไม่ปรากฏว่ามีคนไทยได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ดังกล่าว

ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ จะรายงานความคืบหน้าให้ทราบต่อไป

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image