“สำนักงานสลากฯ”เตรียมใช้สลากรูปแบบใหม่งวด1ก.ย.ยันถูกรับรางวัลเท่าเดิม

พลตรีฉลองรัฐ นาคอาทิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยในงานแถลงผลการดำเนินงานครบรอบ 2 ปี ว่า การทำงานของคณะกรรมการสลากฯในปีที่ 1 เน้นการบังคับใช้กฎหมาย ส่วนปีที่ 2 ได้ปรับสมดุล ดูแลสลากเกินราคาและพิมพ์สลากในจำนวนเพียงพอ และในระยะที่เข้าสู่ปีที่ 3 จะยังคงบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่องและเข้มข้น และแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนและเป็นธรรม โดยจะปรับปรุงรูปแบบสลาก การเพิ่มระบบป้องกันการปลอมแปลงสลาก โดยคณะกรรมการฯได้มีมติเห็นชอบให้มีสลากรูปแบบใหม่ออกมาในงวดวันที่ 1 กันยายน 2560 โดยสลากแบบใหม่จะเป็นสลากใบเดียว จำหน่ายฉบับละ 80 บาท ขนาดเล็กลงกว่าเดิม กว้าง 5.9 ยาว 11.8 เซนติเมตร มีคิวอาร์โค้ด 2 มิติ เนื้อกระดาษหนาขึ้น มีลายน้ำชัดเจนขึ้นเป็นรูปนกวายุภักษ์ขนาดใหญ่อยู่ตรงกลาง ต่างจากสลากเดิมที่มีขนาดใหญ่กว่า เป็นฉบับคู่ 80 บาท จำหน่ายฉบับละ 40 บาท มีลายน้ำรูปนกฯกระจายอยู่ และไม่มีคิวอาร์โค้ด

“สำหรับจำนวนรางวัลยังเท่าเดิม คือ 14,168 รางวัล เป็นเงิน 48 ล้านบาท โดยสลากแบบใหม่เมื่อถูกรางวัลก็ให้เอาจำนวนเงินรางวัลคูณสอง จากเงินรางวัลของแบบเดิม เช่น รางวัลที่หนึ่ง สลากหนึ่งฉบับได้รางวัลละ 3 ล้านบาท หรือหนึ่งฉบับคู่ 80 บาทได้รางวัล 6 ล้านบาท แบบใหม่ก็ให้คูณสองจากรางวัลของหนึ่งฉบับ เป็นได้รางวัลฉบับละ 6 ล้านบาท ส่วนจำนวนสลากในงวดวันที่ 1 กันยายนนี้จะพิมพ์เท่าเดิม คือ 71 ล้านใบ”พลตรีฉลองรัฐกล่าว

พลตรีฉลองรัฐ กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ไขพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานนโยบายรัฐวิสาหกิจ(สคร.) หลังจากสำนักงานฯได้เสนอแก้ไขร่าง พ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ. 2517 และยื่นเสนอไปยังกระทรวงการคลัง นอกจากนี้ได้ทำหนังสือถึง สคร. ว่าจะต้องนำร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวกลับมารับฟังความคิดเห็นส่วนที่เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ เพราะพ.ร.บ.ได้ดำเนินการแก้ไขก่อนที่รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันประกาศใช้ ซึ่งรัฐธรรมนูญระบุว่าการแก้ไขกฎหมาย ที่ตรา พ.ร.บ. จะต้องรับฟังความคิดเห็น

Advertisement

นายธนวรรธน์ พลวิชัย โฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า ขณะนี้คณะกรรมการฯยังไม่มีแนวคิดออกสลากรูปแบบใหม่ออกมา นอกเหนือจากสลากกินแบ่งที่เป็นใบกระดาษ อย่างไรก็ตามกรอบกฎหมายเปิดให้สามารถออกสลากรูปแบบใหม่ได้ จึงอยู่ระหว่างศึกษาผลิตภัณฑ์สลากรูปแบบต่างๆอยู่ โดยคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนไทยเป็นสำคัญ รวมถึงผู้จำหน่ายสลากด้วย และให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ โครงสร้าง บริบทของสังคมไทยและวิถีชีวิตของประชาชน นอกจากนี้ได้ศึกษาการบริหารจัดการสลากของประเทศต่างๆ ในอาเซียน พบว่า ไทยเป็นประเทศที่มีความถี่ออกรางวัลสลากและรูปแบบสลากในตลาดน้อยที่สุดในอาเซียน ส่วนสลากออนไลน์นั้น ต้องใช้ระยะเวลาศึกษาข้อมูลรอบด้านและพิจารณาให้รอบคอบ เพื่อแก้ปัญหาผู้ขายสลากเกินราคาให้เป็นระบบและยั่งยืน

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image